posttoday

ศรีสุวรรณร้องกสม.-ปปช.สอบรัฐละเมิดสิทธิมนุษยชนม็อบเทพา

30 พฤศจิกายน 2560

"ศรีสุวรรณ" ร้องกรรมการสิทธิฯ - ปปช. สอบรัฐละเมิดละเมิดผู้ชุมนุมคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา สิทธิมนุษยชนม็อบเทพา

"ศรีสุวรรณ" ร้องกรรมการสิทธิฯ - ปปช. สอบรัฐละเมิดละเมิดผู้ชุมนุมคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา สิทธิมนุษยชนม็อบเทพา

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)  ขอให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีการจับกุมแกนนำต่อต้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาเมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ต้องการให้ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชน 4 เรื่อง คือ 1. การเดินเท้าไปคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯของชาวบ้าน ไม่ได้ขัดขวางหรือก่อเหตุวุ่นวาย จึงเป็นการใช้สิทธิโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่เจ้าหน้าที่รัฐกลับใช้กำลังเช้าสลายขบวนการเดินเท้าของชาวบ้าน ซึ่งเข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน ขัดต่อระเบียบวินัย ที่ถือเป็นความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

2. การเข้าควบคุมตัวแกนนำทั้ง 15 คน ทั้งหมดยังไม่ใช่ผู้ต้องหา เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่กลับใช้เครื่องพันธนาการหรือล่ามโซ่ระหว่างนำบุคคลทั้งหมดเดินทางไปศาลเพื่อฝากขัง ซึ่งการกระทำดังกล่าวขัดต่อปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยให้การรับรองไว้ 3.การที่พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการเดินหน้าประเทศไทย ถึงการหายตัวไปของแกนนำคัดค้านฯระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าสลายขบวนเดินเท้า ทำนองว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมตัว แต่อาจหายไปกับหญิงอื่น ถือเป็นการเหยียดเพศ หยามชาวบ้าน เป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของแกนนำ เป็นการละเมิดปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเช่นกัน และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่รัฐธรรมนูญมาตรา 4 บัญญัติคุ้มครองไว้

และ4.การที่นายกรัฐมนตรีออกประกาศจำนวน 4 ฉบับ เรื่องการกำหนดพื้นที่ การปฏิบัติหน้าที่และลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายใน ซึ่งความเป็นจริงรัฐธรรมนูญได้บัญญัติคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเรื่องต่าง ๆ ไว้รวมถึงเรื่องการชุมนุมฯ การออกประกาศถือเป็นการละเมิด ทำให้ประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ 3 จังหวัดต้องอยู่อย่างหวาดกลัว กระทบต่อการดำเนินชีวิต ทั้งที่การที่ชาวบ้านที่คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเดินเท้าไปประสงค์จะยื่นหนังสือและอธิบายต่อนายกรัฐมนตรีโดยตรงถึงเหตุของการคัดค้านเท่านั้น จึงไม่เป็นเหตุผลที่มีน้ำหนักเพียงพอที่นายกรัฐมนตรีจะใช้อำนาจตามมาตรา 15 พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกประกาศทั้ง 4 ฉบับดังกล่าว  การออกประกาศจึงเป็นการใช้อำนาจที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรงและขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดแจ้ง

“การเป็นนายกรัฐมนตรีต้องรับทั้งผิดทั้งชอบ ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยทั่วโลกเขาก็เป็นอย่างนี้ และนายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย แต่ท่านกลับไม่เคารพกฎหมายเสียเอง แล้วจะมาสอนประชาชนให้เคารพกฎหมายได้อย่างไร  และแม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้มีทีท่าสนใจในเรื่องการละเมิดสิทธิ แต่ถ้ากสม.ตรวจสอบและมีข้อสรุปที่เป็นไปในทางประจานรัฐบาล จะทำให้ทั่วโลกรับรู้ เราไม่อาจปิดประเทศอยู่คนเดียวได้ ถ้าถูกต่างประเทศตำหนิเรื่องการละเมิดสิทธิหรือใช้มาตรการในการบอยคอตต่าง ๆ จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการดำเนินนโยบายของรัฐบาลในอนาคตด้วย” นายศรีสุวรรณ กล่าว