posttoday

"สมชัย"ชี้ปลดล็อคพรรคการเมืองช้าเสี่ยงส่งผู้สมัครไม่ได้

16 พฤศจิกายน 2560

กกต.ชี้ปลดล็อคพรรคการเมืองช้าทำให้พรรคการเมืองเสี่ยงส่งผู้สมัคร ส.ส. ไม่ทันตามกฎหมาย

กกต.ชี้ปลดล็อคพรรคการเมืองช้าทำให้พรรคการเมืองเสี่ยงส่งผู้สมัคร ส.ส. ไม่ทันตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า พรป.พรรคการเมือง มีผลใช้บังคับตั้งแต่ 8 ต.ค. 2560 ขณะนี้เวลาผ่านไปแล้ว 40 วัน  โดยจะครบกำหนด 90 วัน ในวันที่ 5 ม.ค. 2561 หรือเหลืออีก 50 วัน  ซึ่งมีผลต่อพรรคการเมืองหามีเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินการตามกฎหมายไม่ทัน

นายสมชัย กล่าวว่า พรรคที่ไม่มีการแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกที่แตกต่างจากที่ปรากฏในทะเบียนสมาชิกพรรคการเมือง หรือ ไม่มีการทำหนังสือขอขยายเวลามาภายในวันที่ 5 ม.ค. 2561 ต้องสิ้นสภาพพรรคการเมือง

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสมาชิก ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิก  แปลว่าไม่ใช่แจ้งแค่จำนวนแต่ต้องแจ้งรายละเอียดต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลง เช่น มีการเปลี่ยน ชื่อ ที่อยู่ สถานภาพ ต่างๆ ที่ครบถ้วนด้วย  นอกจากนี้ การสิ้นสภาพพรรคการเมือง  ไม่ใช่การยุบพรรคการเมือง  สิ้นสภาพคือ หมดความเป็นพรรคการเมืองโดยสภาพ ซึ่งนายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ประกาศรายชื่อพรรคที่สิ้นสภาพได้ทันที  แต่ถ้าเป็นการยุบพรรค  กกต. ยังต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉับยุบพรรค

นายสมชัยกล่าวว่า ทางออกเพื่อไม่ให้พรรคได้รับผลกระทบต้องสิ้นสภาพ คือพรรคการเมืองต้องทำหนังสือขอขยายเวลามายังนายทะเบียนพรรค ก่อนวันที่ 5 ม.ค. 2561 โดยต้องระบุเวลาที่ขอขยาย  แต่ระหว่างการขอขยายเวลา พรรคไม่สามารถส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งได้ และไม่สามารถได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง

นายสมชัยกล่าวว่า อีกทางออกคืออาจมีการขอแก้ไข พรป. พรรคการเมือง เพื่อกำหนดเงื่อนไขใหม่ในกิจกรรมที่พรรคการเมืองต้องดำเนินการหลังจาก พรป. มีผลบังคับใช้  ซึ่งการขอแก้ไขควรเป็นหน้าที่ของ กรธ. เนื่องจากเป็นผู้ร่างกฎหมายจะรู้ดีว่า ควรแก้ในมาตราใด เพราะอาจมีความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายในมาตราต่างๆ  โดย กกต. สามารถสนับสนุนในการชี้ให้เห็นในทางปฏิบัติ  แต่ไม่ใช่เป็นผู้เสนอแก้กฎหมาย

"อีกทางออกคือการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. เพื่อสั่งการแก้ไขให้เกิดการผ่อนคลายในกรอบระยะเวลาและเงื่อนไขการดำเนินการ  ซึ่งนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็น ส่วนหนึ่งของ คสช. สมควรเป็นผู้เสนอให้ คสช.ดำเนินการตามเหมาะสม"นายสมชัยกล่าว

นายสมชัยยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้  ในประเด็นปัญหาการดำเนินการของพรรคการเมืองที่อาจดำเนินการไม่ทันโดย นายมีชัย บอกว่าเป็นเรื่องที่ กกต. สามารถขอให้ สนช. แก้ไข พรป. ได้นั้น  ตนเห็นว่า กกต. มิใช่ผู้ร่าง กฎหมายตั้งแต่แรก  เมื่อ กรธ. เป็นผู้ร่างแล้วก่อให้เกิดปัญหา  กรธ. ก็ควรเป็นผู้เสนอการแก้ไขเอง เพราะ นายมีชัย ก็อยู่ทั้งใน คสช. และ เป็นประธาน กรธ. อยู่ในแม่น้ำ 5 สาย น่าจะดำเนินการได้โดยสะดวกมากกว่า

"เมื่อกฎหมายที่ร่างมีปัญหา ก็ควรรู้ว่าควรแก้ไขในจุดใด กกต. คงทำหน้าที่ทำตามกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่เป็นผู้ตามแก้ปัญหาจากกฎหมายที่ตนไม่ได้ร่าง"นายสมชัยกล่าว