posttoday

"ฉัตรชัย"เผยภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมเหนือ–กลาง–อีสานดีขึ้น

07 พฤศจิกายน 2560

พล.อ.ฉัตรชัย เผย ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ–กลาง–อีสาน ดีขึ้น ส่งเครื่องสูบน้ำ 380 เครื่องช่วยภาคใต้แล้ว ชงครม.มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วมเพิ่มเป็น 9 แสนราย

พล.อ.ฉัตรชัย เผย ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือ–กลาง–อีสาน ดีขึ้น ส่งเครื่องสูบน้ำ 380 เครื่องช่วยภาคใต้แล้ว ชงครม.มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วมเพิ่มเป็น 9 แสนราย

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศว่า สำหรับสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลดปริมาณการระบายน้ำลง 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันการระบายน้ำเหลือเพียง 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำโดยเฉลี่ยตั้งแต่ท้ายเขื่อนลงมาลดลง 50 เซนติเมตร ส่วนเหนือเขื่อนเจ้าพระยากลับสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ลดการระบายน้ำเหลือเพียง 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำพองลดลง ในระยะเวลาอันใกล้จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ที่เป็นปัญหาอยู่จะเป็นตอนกลางของลุ่มน้ำชีคือ จ.มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ เนื่องจากการระบายน้ำค่อนข้างช้า เพราะมีความคดเคี้ยว แต่การเร่งระบายน้ำที่ท้ายน้ำจ.อุบลราชธานี จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าวได้ภายในสิ้นเดือนพ.ย.

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ 380 เครื่อง และเครื่องมืออื่นๆ รวมมากกว่า 500 เครื่องลงไปวางกระจาย14 จุด เพื่อให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอาหารสัตว์ มีการส่งลงไป 2,000 ตัน และส่งสัตวแพทย์ลงไปประจำพื้นที่เพื่อดูแลสัตว์ด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ได้มีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยและทหารตลอดเวลา ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (7 พ.ย.) ได้มีการขออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือภาคเกษตรในพื้นที่ที่ประสบภัยจากพายุ รายละ 3,000 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มเติมอีก 900,000 กว่าราย วงเงิน4,000 ล้านบาทเศษ นอกจากที่เสนอครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ อาทิ การจ้างงาน การชำระหนี้ของสหกรณ์ การช่วยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำ

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวถึงสถานการณ์ราคายางพาราว่า เท่าที่ทราบสำหรับราคายางวันนี้ (7 พ.ย.) มีสถานการณ์ดีขึ้น โดยตนได้สั่งการให้พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย และนายธีธัช สุขสะอาด ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เข้าไปดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้การที่ราคายางผันผวนตามตลาดซื้อขายล่วงหน้าเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงนี้ แต่สิ่งที่พยายามผลักดันคือ การใช้ยางในประเทศให้ได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ 30เปอร์เซ็นต์ ขณะนี้ยังใช้ได้แค่ 13 – 14 เปอร์เซ็นต์  แต่ต้องเดินหน้าต่อไป เพื่อให้เกษตรกรมีการซื้อขายในประเทศ อีกจุดคือ การสร้างความเข้มแข็งในสวนยาง โดยเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการเดิม

เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีการเรียกร้องให้เปลี่ยนตัวประธานบอร์ดกยท. พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่า เขาทำงานอย่างไร มีข้อบกพร่องผิดพลาดหรือไม่ ถ้าไม่มีต้องพิจารณากันให้รอบคอบ โดยทางกระทรวงจะหาโอกาสพูดคุยไกล่เกลี่ยทั้งสอฝ่าย ซึ่งที่ผ่านมาตนได้มีการพูดคุยกับเกษตรกร หลายคนมีความเข้าใจ บางส่วนที่ยังไม่เข้าใจต้องมีความการสร้างเข้าใจต่อไป