หั่นอำนาจ'ผู้ว่าสตง.' ปมสอบเจ้าหน้าที่ปปช.ได้

กมธ.ยอมปรับแก้กฎหมายลูกตรวจเงินแผ่นดินลดทอนอำนาจ ผู้ว่าการ สตง. สอบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. "กล้านรงค์"หวั่นล้วงความลับสำนวน

การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินในวาระ 2 และวาระ 3 หลังจากที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแล้วเสร็จ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้อภิปรายอย่างกว้างขวางในวรรค 3 ของมาตรา 7 เกี่ยวกับการให้อำนาจผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบการทุจริตเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการเสียงข้างมากยอมปรับเนื้อหา เป็น "ในกรณีที่ผู้ว่าการ สตง. ตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินแล้วพบหลักฐานอันเชื่อได้ว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทุจริตต่อหน้าที่ ให้แจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบ และให้ผู้ว่าการ สตง.มีอำนาจไต่สวน เบื้องต้นตามหลักเกณฑ์ที่ ป.ป.ช.กำหนด แต่ต้องไม่กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และหากคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นว่า การดำเนินการของผู้ว่าการ สตง. กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. สามารถแจ้งให้ผู้ว่าการ สตง.ยุติการไต่สวนเบื้องต้น เพื่อส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป"

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมาธิการเสียงข้างมาก ชี้แจงว่า การให้ผู้ว่าการฯ เข้ามาไต่สวนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ที่ทุจริตได้นั้น เป็นการก้าวล่วงอำนาจการทำงานของ ป.ป.ช. และอาจส่งผลกระทบต่อสำนวนการไต่สวนคดีความของ ป.ป.ช. ที่มีบุคคลหรือองค์กรอื่นล่วงรู้ความลับในสำนวนได้

"รวมถึงกรณีที่ สตง.ไปตรวจสอบบุคคลที่ ป.ป.ช.ไม่ไต่สวน ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งต่อการตรวจสอบของ 2 องค์กร และกระทบต่อการตรวจสอบทุจริตของ ป.ป.ช.ทันที" นายกล้านรงค์ กล่าว

แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2560 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้ร่วมกันลงชื่อในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านการให้อำนาจผู้ว่าการ สตง. สอบสวนเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ได้