สุริยะใสชี้"ปู-บุญทรง"ถูกตัดสินจำคุกสะท้อน 5 บทเรียน
"สุริยะใส" ชี้ "ยิ่งลักษณ์-บุญทรง"ถูกศาลจำคุกคดีทุจริตจำนำข้าวสะท้อน 5 บทเรียนให้นักการเมือง ระบุเป็นจุดจบประชานิยม
"สุริยะใส" ชี้ "ยิ่งลักษณ์-บุญทรง"ถูกศาลจำคุกคดีทุจริตจำนำข้าวสะท้อน 5 บทเรียนให้นักการเมือง ระบุเป็นจุดจบประชานิยม
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า กรณีจุริตจากโครงการรับจำนำข้าวที่ศาลสั่งจำคุก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ 5 ปี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ 42 ปี เป็นอุทาหรณ์และบทเรียนของนักการเมืองและพรรคการเมือง 5 ประการ คือ
ประการแรก แม้ศาลจะบอกว่าไม่มีอำนาจพิพากษาว่านโยบายของรัฐบาลชอบหรือไม่ชอบก็ตาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านโยบายที่ชนะเลือกตั้งมาจะถูกต้องเสมอไปหากพบว่านโยบายดังกล่าวเอื้อให้เกิดการทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงและทำให้เกิดความเสียใหญ่หลวงต่อสาธารณะ ฝ่ายการเมืองก็ปฏิเสธความรับผิดชอบในการดำเนินนโยบายนั้นไม่ได้เพราะถือเป็นฝ่ายปกครองตามกฎหมาย
ประการที่สอง พรรคการเมืองต้องคิดมากหากยังคิดจะเอานโยบายประชานิยมมาหาเสียงหาคะแนนกันอีก แม้จะไม่ได้ห้ามนโยบายประชานิยมก็ตาม แต่จะทำยากขึ้นและความเสี่ยงสูงขึ้นเพราะธรรมชาติของนโยบายประชานิยมมักพบความหละหลวมในการดำเนินการ จนเกิดทุจริตและความเสียหายต่อสาธารณะตามมา
ประการที่สาม อันตรายของการเมืองที่เน้นแต่เสียงข้างมากจนไม่สนใจความถูกต้องชอบธรรม ปฏิเสธการตรวจสอบของเสียงข้างน้อย และมุ่งหวังแต่ความนิยมทางการเมือง
ประการที่สี่ นักการเมืองที่พยายามทำตัวเป็นนอมินีให้กับผู้มีอำนาจสุดท้ายตัวเองก็ต้องรับผิดคนเดียว แต่คนรับชอบมีแต่ได้กับได้สิ้นนอมินีคนนี้ก็สร้างนอมินีคนต่อไปจึงเป็นอุทาหรณ์ของนักการเมืองจำพวกนอมินีที่ต้องคิดให้มากขึ้น
ประการที่ห้า นักการเมืองและพรรคการเมืองต้องกล้าแสวงหานโยบายใหม่ๆ ที่จะแก้ปัญหาให้กับประชาชนในระยะยาวได้ด้วย ไม่ใช่คิดแค่เฉพาะหน้าและชัยชนะในการเลือกตั้งชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น