posttoday

"อักษรา"รับกลุ่มเห็นต่างไม่พร้อมกำหนดเซฟตี้โซนจังหวัดชายแดนใต้

16 กันยายน 2560

"พล.อ.อักษรา" เผย กลุ่มเห็นต่าง ยังไม่พร้อมกำหนดพื้นที่ เซฟตี้โซนในจังหวัดชายแดนใต้ ยันเดินหน้าเจรจาต่อ ส่วนพวกสุดโต่ง ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย -การทหาร จัดการ

"พล.อ.อักษรา"  เผย กลุ่มเห็นต่าง ยังไม่พร้อมกำหนดพื้นที่ เซฟตี้โซนในจังหวัดชายแดนใต้ ยันเดินหน้าเจรจาต่อ ส่วนพวกสุดโต่ง ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย -การทหาร จัดการ

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พล.อ. อักษรา   เกิดผล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงความพร้อมในการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยและพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า การพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ เป็นแนวทางสันติวิธีที่ต้องใช้เวลาและขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกฝ่ายที่จะร่วมมือกัน โดยคณะพูดคุยฯ ได้ก้าวข้าม ผลงานของตัวเองไปแล้ว  แต่มุ่งไปสู่ ผลสัมฤทธิ์คือการที่ไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงและไม่มีการสูญเสียในพื้นที่เป็นสำคัญ

สำหรับเรื่องการกำหนดพื้นที่ปลอดภัยหรือ เซฟตี้โซนนั้น ในห้วงวันที่ 11 - 12 ก.ย. 2560 ตนได้ให้คณะทำงานเทคนิคร่วม เดินทางไปยืนยันกับขบวนการผู้เห็นต่างทุกกลุ่มว่า  รัฐบาลไทยมีความจริงใจและมีความพร้อมในการดำเนินการทุกเรื่อง รวมทั้งภาคประชาชนในพื้นที่ก็ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยต่างๆ  เพราะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรง

"หากกลุ่มผู้เห็นต่างฯ ยังไม่มีความพร้อมก็จะทำให้โอกาสที่ภาคประชาชน จะเข้ามามีส่วนร่วมต้องล่าช้าออกไปอีก "พล.อ.อักษรา กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มผู้เห็นต่างฯ จะยังไม่มีความพร้อมในการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย ภาครัฐก็ต้องรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทั้ง 37 อำเภอ ของจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้ว  เพราะรัฐบาลตระหนักดีว่าความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นความเร่งด่วนแรกที่สำคัญที่สุด มากกว่าโครงการพัฒนาต่างๆ  ของส่วนราชการที่มีอยู่มากมายในพื้นที่

พล.อ.อักษรา ยืนยันด้วยว่า การดำเนินการทุกเรื่องในพื้นที่ล้วนมีความสำคัญ  ทั้งการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ โครงการพาคนกลับบ้าน  และโครงการพัฒนาด้านต่างๆในพื้นที่  ซึ่งต้องมีผลต่อเนื่องเชื่อมโยงกันให้เกิดความปลอดภัยในพื้นที่สูงสุด ส่งผลให้สามารถลดเหตุการณ์ความรุนแรง และลดการสูญเสียทั้งปวง มิใช่ต่างฝ่ายต่างดำเนินการไปโดย ไม่มีผลต่อกัน

​อย่างไรก็ตาม การพูดคุย  จะยังดำเนินการต่อไป จนกว่าขบวนการผู้เห็นต่างฯ ทุกกลุ่มจะมีความพร้อมและยินยอมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และภาคประชาชน ในการจัดตั้งพื้นที่ปลอดภัย  เพื่อแสดงความจริงใจที่ทุกฝ่ายมีความตั้งใจ ที่จะทำเพื่อประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง มิใช่เป็นเพียงการกล่าวอ้างเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตน และภาคประชาชนในพื้นที่นั่นเอง จะเข้ามาพิสูจน์ความจริงใจของทุกฝ่ายในพื้นที่ปลอดภัยดังกล่าวต่อไป

​พล.อ.อักษรา กล่าวว่า สำหรับกลุ่มที่ยังมีแนวคิดสุดโต่ง นิยมใช้ความรุนแรงกดดัน  รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายและมาตรการทางทหารอย่างเด็ดขาด จัดการกับคนกลุ่มนี้ต่อไป  ทั้งนี้เพื่อความสงบสุขปลอดภัยของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มอาชีพและทุกศาสนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้