นายกฯเบรกส่วนราชการจัดพิธีต้อนรับใหญ่โต

นายกฯพาครม.ลงพื้นที่สุพรรณบุรี-อยุธยา18-19ก.ย.ห้ามส่วนราชการอย่าสร้างภาระชาบ้านหรือจัดพิธีต้อนรับใหญ่โต

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวผ่านรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า ในระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย.นี้ คณะรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ จ.สุพรรณบุรีและจ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐ ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับทราบปัญหา ข้อเรียกร้องจากประชาชนในพื้นที่เพิ่มเติม รวมถึงต้องการรับทราบความคืบหน้าและลงไปแก้ปัญหาให้ รวดร็วยิ่งขึ้น รวมถึงจะให้มีการเปิดศูนย์รับเรื่องความเดือดร้อน ข้อเสนอแนะสามารถส่งได้เลยเพราะข้อมูลจะมาถึงนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องส่งโดยตรงเพราะไม่งั้นจะวุ่นวายสับสน มีปัญหาเรื่องรปภ.อีก และดีใจที่จะได้ไปพบพี่น้อง บางท่านอาจจะต้องเดินทางมาบ้างเพราะเราไม่มีเวลามากที่จะไปเยี่ยมในทุกพื้นที่ และส่วนราชการต้องไม่สร้างภาระให้กับประชาชน ในการต้อนรับหรือมีพิธีการใหญ่โตและต้องไม่สร้างความเข้าใจผิดให้ใครนำไปบิดเบือนได้เช่นที่ผ่านมา
         
“รัฐบาลและคสช.ต้องการลงไปรับทราบปัญหาและเร่งแก้ไข ไม่ใช่ไปสร้างคะแนนเสียง ความนิยมอย่างที่วิพากษ์วิจารณ์กันในปัจจุบัน ผมทำอะไรที่มันแตกต่าง เพราะวันนี้หลายคนก็อ้างว่าไม่มีส.ส.ไม่มีใครไปดูแล วันนี้เราก็มีศูนย์ดำรงธรรมรับข้อมูลอยู่แล้วทุกพื้นที่ระดับอำเภอ และก็คล้ายๆกับมีส.ส.อยู่แล้ว แต่เราไปรับทุกคน ทุกพวก ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม แก้ปัญหาได้ กว่าร้อยละ 90 อะไรที่ซับซ้อน มีปัญหาเรื่องกฎหมายก็ต้องใช้เวลา ปัญหาทั้งหมดมันมากมายมหาศาล เพราะเรามีคนตั้งเกือบ 70 ล้านคน”นายกรัฐมนตรี กล่าว
         
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่าในการประชุมครม.เมื่อวันที่ 12 ก.ย.60 ได้สรุปข้อมูล10 ข้อหลักจากหนังสือที่ชื่อว่า The Speed of Trust ให้ครม.ไปอ่านหลักการสรุปได้ว่าสิ่งที่มีความสำคัญหากขาดหายไปไม่ได้ ถ้าหากขาดหายไป เราก็จะไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะทำงานหรือดำรงชีวิตอะไรก็ตาม แต่ถ้าสามารถสร้างขึ้นมาได้ ทั้งตนเอง ทั้งชุมชน ครอบครัว เพื่อนฝูงยิ่งมาก ก็จะยิ่งให้ประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่คือ"ความไว้วางใจ"ซึ่งเป็นสิ่งที่บังคับไม่ได้ แต่ต้องแลกกันด้วยใจ ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราต้องพิสูจน์ตนเอง
         
“ก็หวังว่าความจริงใจของผมที่มีต่อพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ จะสามารถสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับทุกคน จนนำไปสู่ความเข้าใจ และความร่วมมือกัน ในการช่วยกัน นำพาประเทศก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆและเดินหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน”นายกรัฐมนตรี กล่าว.