"พรเพชร"แจงกรอบสรรหา"กกต."ใหม่

ประธานสนช.แจง ขั้นตอนสรรหากกต.ใหม่ ชี้ 12 ธ.ค. ต้องได้รายชื่อ 7 คนให้ สนช.เลือก ย้ำที่ผ่านมาพิจารณาตามกรอบ 60 วัน   

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงภายหลังร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศใช้ ว่า กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ส่ง ร่างพ.ร.ป. ดังกล่าว มาให้ สนช. พิจารณาเมื่อวันที่ 18 เม.ย.2560 สนช.พิจารณาแล้วเสร็จภายใน 60 วันตามกรอบรัฐธรรมนูญ แต่มีกระบวนการที่ต้องส่งไปให้ กรธ.และองค์กรอิระที่เกี่ยวข้องคือ กกต.ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ มีการโต้แย้งและตั้งกรรมการร่วม 3 ฝ่ายเมื่อตั้งเสร็จแล้ว ส่งร่าง พ.ร.ป.มา เข้าสู่การพิจารณา สนช.อีกครั้งหนึ่งแล้วจึงส่งเรื่องไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาโปรดเกล้าฯ

ทั้งนี้ รวมระยะเวลาจนถึงการประกาศใช้ รวม 149 วัน ซึ่งเป็นไปตามกรอบที่ให้สนช.พิจารณาในส่วนของสนช. 60 วัน ไม่รวมกับกระบวนอื่นอีก 89 วัน  ประเด็นนี้เป็นสิ่งที่พยายามชี้แจงมาโดยตลอด โดยรอบระยะเวลาในการจัดการเลือกตั้งจะต้องพิจารณาในเงื่อนเวลาเหล่านี้ด้วย โดยที่ไม่รู้ว่ากฎหมายอีก 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่ ส่วนจะกระทบกับโรดแม็ปการเลือกตั้งที่วางไว้ในปี 61 หรือไม่ นั้นยังบอกไม่ได้ เพราะเงื่อนไขที่ได้อธิบายไปคงต้องไปคิดกันเอาเอง

นายพรเพชร กล่าวว่า หลังจาก พ.ร.ป. กกต. มีผลบังคับใช้ ทำให้ กกต.ชุดปัจจุบันต้องพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 14 ก.ย.แต่ตามกฎหมายยังให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ ทั้งนี้ การสรรหากกต.ชุดใหม่ มีที่มา 2 ทาง คือ  1. จำนวน 5 คน มาจากคณะกรรมการการสรรหา ที่มีประธานศาลฎีกา เป็นประธาน และมีกรรมการ มาจาก ประธานศาลปกครองสูงสุด ตัวแทนศาลรัฐธรรมนูญและตัวแทนองค์กรอิสระที่มิใช่ กกต. องค์กรละ 1 คน โดยทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการสรรหาได้ส่งหนังสือไปยังองค์กรดังกล่าวให้มีการเลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่กรรมการสรรหาภายใน 20 วัน  และ  2. จำนวน 2 คน มาจากการเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา

อย่างไรก็ตาม สำหรับที่มาของ กกต. ทั้ง 2 ส่วน นั้น คณะกรรมการสรรหาและที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา นั้น มีกรอบการสรรหาไม่เกิน 90 วัน หรือ ภายใน 12 ธ.ค.นี้ ก่อนส่งรายชื่อทั้ง 7 คนมายังที่ประชุม สนช.พิจารณาเห็นชอบหรือไม่ต่อไป ภายในกรอบ 45 วัน ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายบุคคล หากที่ประชุมสนช.ไม่เห็นชอบกับบุคคลใด ก็ต้องกลับไปเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่เป็นรายบุคคล