ผบ.ทบ.รับบกพร่อง"ยิ่งลักษณ์"หนีเชื่อ"ทักษิณ"บงการ

ผบ.ทบ.ขอยอมรับผิด บกพร่องปล่อย"ยิ่งลักษณ์"หลบหนี  ปัดเกี๊ยเซี๊ย  เชื่อ"ทักษิณ"ร่วมวางแผนล่วงหน้าพาหนี

เมื่อวันที่ 29 ส.ค.พล.อ.เฉลิมชัย  สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหนีออกนอกประเทศ หลังไม่ไปฟังคำตัดสินคดีโครงการรับจำนำข้าวของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เร่งรัดหน่วยงานความมั่นคงโดยเฉพาะกองทัพบกที่ดูแลตามแนวชายแดนให้ติดตามตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี รวมถึงห้วงเวลา วิธีการ ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบทั้ง 4 กองทัพภาคแล้วยังไม่ปรากฎสิ่งบอกเหตุว่า หลบหนีออกไปเส้นทางใด

“กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดและเส้นทางธรรมชาติ แต่เชื่อว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี จึงมีศักยภาพในการหลบหนีด้วยตนเอง เพราะมีคนสนับสนุน มีเครือข่ายเยอะพอสมควรที่พร้อมให้การช่วยเหลือ ที่สำคัญคือคนรอบข้างเป็นคนมีความรู้ มีตำรวจติดตาม จึงรู้วิธีการ รู้เทคนิค อย่างไรก็ตาม ไม่ต้องการให้พาดพิงเส้นทางการหลบหนีว่าออกไปทางชายแดนฝั่งใด เพราะจะกระทบประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่ง ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชายืนยันแล้วว่ากัมพูชาไม่พบข้อมูลน.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีมาทางกัมพูชา” ผบ.ทบ.กล่าว

พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า คสช.ไม่ได้เกี๊ยเซียะหรือเอื้อประโยชน์ให้น.ส.ยิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศ เพราะคสช.ไม่ได้ประโยชน์อะไร และอาจจะใช้เวทีนอกประเทศโจมตีคสช. ซึ่งก็ไม่สามารถเอาผิดได้  ทั้งนี้ ขอยอมรับผิดในความบกพร่องของตนเอง วันนี้ไม่ได้มาแก้ตัวหรือร้องขอความเป็นธรรม แต่ต้องการชี้แจง น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ใช่บุคคลธรรมดาแต่เป็นผู้มีบารมี มีผู้สนับสนุน มีเครือข่ายที่เป็นเจ้าหน้าที่และมีความรู้ความชำนาญในการหาวิธีการหลบหนีได้ โดยใช้เทคโนโลยีและรูปแบบการดำเนินการทางลับ รวมทั้งยังมีเครื่องบินส่วนตัว

“คสช.ไม่คาดคิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะหลบหนีและทิ้งเงินประกัน 30 ล้านบาท เพราะยืนยันมาตลอดว่าจะไม่หลบหนี จึงไม่ได้สั่งการให้กองกำลังชายแดนจับตาคดีรับจำนำข้าวเป็นพิเศษ  ช่วงที่ผ่านมา คสช.ไม่ได้ควบคุมน.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเคยถูกสังคมตำหนิว่าเป็นการข่มขู่คุกคาม จึงถอนกำลังออกมา เชื่อว่าคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คอยเตรียมการให้ในภาคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อันที่ 2 คือมีเครื่องบินส่วนตัว ซึ่งคนอื่น ๆ คงไม่มี ในภาพรวมจึงคิดว่ามีศักยภาพในการหลบหนีด้วยตนเอง ที่สำคัญที่สุดคือคุณยิ่งลักษณ์ยืนยันตลอดเวลาว่าพร้อมพิสูจน์ตนเองตอนขึ้นศาล ผมจึงเชื่อว่าสิ่งที่คุณยิ่งลักษณ์พูดหรือแสดงตน จึงไม่มีใครคิดว่าจะหลบหนี จึงยืนยันได้ว่าการหลบหนีครั้งนี้มีการเตรียมการและตัดสินใจไว้ล่วงหน้าแล้ว รอเวลาและโอกาสที่เหมาะสม" ผบ.ทบ. กล่าว 

เมื่อถามว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ออกไปเคลื่อนไหวโจมตี รัฐบาล และคสช.นอกประเทศ จะเกิดกระทบ หรือไม่พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า บางคนบอกว่าออกไปแล้ว จะเป็นประโยชน์กับคสช. ที่เกี๊ยเซี๊ยกัน ตนมองไม่เห็นว่ามีประโยชน์ตรงไหน ถ้าออกไปแล้ว และไปให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง คสช.ก็เสียหาย จะไปเอาผิดทางกฎหมายก็ไม่ได้ ซึ่งทุกวันนี้สังคมก็ด่าตนทุกวัน แต่ยอมรับทุกคำตำหนิ และหากออกไปแล้วไปเคลื่อนไหวแบบพี่ชาย เราจะเดินตามกรอบที่วางไว้ ดังนั้นเราต้องทำทุกอย่างให้รัดกุมที่สุด ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประเทศ ตนเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจ จึงไม่อยากให้นำประเด็นนี้มากลายเป็นความขัดแย้งอีกระลอก

เมื่อถามอีกว่า คสช.หวั่นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแฉข้อตกลง เรื่องสร้างความปรองดองหรือไม่ พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า ไม่เคยคุย เพราะเวทีปรองดองมีตัวแทนพรรคการเมืองมาร่วม ในระดับคสช. เชื่อว่ามีไม่กี่คนที่รู้จักน.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะคนทำงานรุ่นหลังๆ มาทำงานหลังน.ส.ยิ่งลักษณ์พ้นบทบาทไปแล้ว ส่วนการเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยในอนาคตนั้น ตนไม่ได้เบาใจอย่างที่ประเมินกัน เราเดินตามกรอบเดิมทุกอย่าง สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้พิจารณา ตนไม่ทราบว่าทางการเมืองพรรคเพื่อไทยจะปฏิรูปจัดรูปแบบอย่างไร อาจจะเข้มแข็งกว่าเดิมก็ได้ ถ้าจัดระบบที่ประชาชนยอมรับ ดังนั้นอย่าปรามาสพรรคเพื่อไทยว่าจะอ่อนแอ

ส่วนกรณีที่บุตรชาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องเดินทางไปฝึกนักศึกษาวิชาการทหาร (นศท.)ที่ศูนย์ฝึก นศท. ถนนวิภาวดีรังสิตวันที่ 2 ก.ย.นั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า เป็นการฝึกตามปกติ และไม่ต้องไปตามประกบ เพราะไม่รู้จะไปประกบทำไม จะดูก็แค่เรื่องความปลอดภัยเท่านั้นเอง