ไม่ใช้กฎหมายพิเศษล่า"ปู" รัฐบาลเลี่ยงตอบหวั่นขาดทุน

ชั่วยามนี้ยังไม่มีใครยืนยันได้ว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ที่ไหน

หลังจากที่ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับเมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ออกหมายจับอดีตนายกฯ หญิงของเมืองไทยทันที หลังจากที่ยิ่งลักษณ์ไม่ปรากฏตัวให้เห็นในวันที่ต้องมาฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว พร้อมยึดเงินประกัน 30 ล้านบาท ให้ตกเป็นของแผ่นดิน

แรงกระเพื่อมหลังจากการหายไปของยิ่งลักษณ์เกิดขึ้นในสังคมไทยขึ้นมาทันที โดยเฉพาะปมที่ว่าเมื่อเจ้าหน้าที่เกาะติดทุกฝีก้าวแล้วตัวของยิ่งลักษณ์หายไปได้อย่างไร รวมถึงการติดตามตัวตามหมายจับรัฐบาลออกแอ็กชั่นอย่างไรบ้าง

คำตอบจาก พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงยังไม่ได้มีการประชุมหรือประเมินสถานการณ์ อีกทั้งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไม่ได้มีคำสั่งพิเศษใดๆ และการติดตามตัวยิ่งลักษณ์จะใช้กลไกตามกฎหมายปกติ ซึ่งทางศาลได้มีคำสั่งถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)ในการดำเนินการติดตามตัวมารับฟังคำพิพากษา

“กรณียิ่งลักษณ์หลบหนีออกนอกประเทศนั้น มีเพียงการนำเสนอข่าวของสื่อเท่านั้น” พ.อ.วินธัย กล่าว

ขณะที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกฯบอกว่า รัฐบาลไม่ควรจะต้องมาตอบคำถามเรื่องยิ่งลักษณ์หลบหนีเพราะรัฐบาลจะขาดทุน และส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไร และทุกอย่างจะค่อยๆชัดเจนขึ้นเองว่าหนีหรือไม่ มีใบรับรองแพทย์บอกอาการป่วยหรือไม่ส่วนตำรวจเองก็มีหน้าที่ติดตามจับกุมตัวตามหมายจับ

ในส่วนปมที่ต้องหาคนรับผิดชอบการหลบหนีของยิ่งลักษณ์นั้น มีชัย ฤชุพันธุ์ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยย้ำว่าหากจะต้องมีคนรับผิดชอบที่ยิ่งลักษณ์หนีคดีก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะหากจะมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าประกบตัวไว้ตลอดเวลาก็ไม่ได้ และขัดต่อสิทธิเสรีภาพ อีกทั้งยิ่งลักษณ์มี “อิสระ” ก่อนที่ศาลจะตัดสิน

กระนั้น มีชัยให้ความเห็นว่าแม้ยิ่งลักษณ์จะหลบหนีแต่ไม่กระทบกับการยึดทรัพย์ในคดีแพ่งและหากศาลตัดสินว่าจะต้องยึดทรัพย์ก็ต้องตามไปยึด

แต่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. ไม่ได้เห็นพ้องไปกับความเห็นของมีชัย ซึ่งล่าสุดที่พธม.ออกแอ็กชั่นเกี่ยวกับเรื่องของยิ่งลักษณ์ และคลอดแถลงการณ์ทวงถามไปยังรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ต้องรับผิดชอบจากกรณีที่ยิ่งลักษณ์หายตัวไปไม่มาขึ้นศาลตัดสินคดี

แถลงการณ์ระบุให้เห็นภาพว่า ระบบทำงานของฝ่ายความมั่นคงล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง และเกิดข้อสงสัยว่า เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ มีส่วนเกี่ยวข้องในการหลบหนีของจำเลยในคดีที่สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ ทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมา ปรากฏข่าวอย่างชัดเจนว่าฝ่ายความมั่นคงได้ส่งทหารติดตามถ่ายรูปและประกบตัวการเดินทางของยิ่งลักษณ์อย่างใกล้ชิดในทุกที่และทุกเวลา แต่กลับเกิดเหตุการณ์หลบหนีไปอย่างง่ายดาย

มติของ พธม.ถูกแบ่งออกเป็น 2 ข้อ ที่หวังสะท้อนไปถึงรัฐบาล คือ 1.เรียกร้องให้รัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สอบสวนข้อเท็จจริงหากพบว่ามีการช่วยเหลือให้หลบหนี ขอให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง

2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 29 ก.พ.2559 ต่อกรณีการส่งทหารติดตามการเคลื่อนไหวยิ่งลักษณ์ อย่างใกล้ชิดว่า

“ที่ส่งทหารไปเพื่อดูแลความคุ้มครองให้เกิดความสงบเรียบร้อย หากมีอะไรเกิดขึ้น คสช.ที่รับผิดชอบในพื้นที่ก็ต้องรับผิดชอบ” เมื่อเป็นเช่นนั้น พล.อ.ประวิตร ก็ต้องรับผิดชอบตามที่ได้เคยพูดไว้

เช่นเดียวกับ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ใครพาคุณยิ่งลักษณ์หนี?” ในทำนองว่า ไม่รู้ว่าใครพายิ่งลักษณ์หนี รัฐบาลต้องมีคำตอบชี้แจงให้สังคม ในทางกลับกัน ถ้ามีผู้ทำความผิดในคดีสำคัญในประเทศเพื่อนบ้าน และมาขอใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อหลบหนีไปสู่ประเทศที่ 3 ถามว่าผู้นำของรัฐบาลไทยจะยอมหรือไม่