posttoday

ทัพเรือแจงซื้อขีปนาวุธเป็นแพ็กเกจเดิมตามโครงการต่อเรือตั้งแต่ปี57

13 สิงหาคม 2560

กองทัพเรือยันซื้อจรวดฮาร์พูนติดเรือหลวงท่าจีนเป็นไปตามแพ็กเกจเดิมไม่เกี่ยวกับนายกฯ

กองทัพเรือยันซื้อจรวดฮาร์พูนติดเรือหลวงท่าจีนเป็นไปตามแพ็กเกจเดิมไม่เกี่ยวกับนายกฯ

พล.ร.อ.จุมพล ลุมพิกานนท์ หัวหน้าคณะฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า รัฐบาลไทยได้ยื่นความจำนงขอซื้อขีปนาวุธ พื้น-สู่-พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ แบบ RGM-84L ฮาร์พูน บล็อกทู 5 ลูก และขีปนาวุธซ้อมยิง ฮาร์พูนบล็อกทู 1 ลูก มูลค่า 828 ล้านบาทนั้น เป็นการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ตามโครงการต่อเรือฟริเกต ตั้งแต่ปี 2557 ในการต่อเรือหลวงท่าจีน

ทั้งนี้ จะมีแพ็กเกจต่อระบบเรือ ระบบเครื่องจักร เครื่องยนต์ ระบบการรบ อาวุธต่างๆ ก็จะมีกำหนดไว้แล้วว่า ดำเนินการเสร็จถึงไหน จะจัดซื้ออาวุธมาต่อเติมช่วงใด ดังนั้นขอย้ำว่าการจัดซื้ออาวุธเป็นไปตามวงรอบในการดำเนินการ ตามวงเงิน และเป็นขั้นตอนทางธุรการเท่านั้น และขอถามว่าช่วงเวลาต่อเรือจะให้ซื้อฮาร์พูนมาก่อนเลยหรือถ้าซื้อมาก็เอามากองทิ้ง ทำแบบนี้ก็ไม่ใช่

พล.ร.อ.จุมพล กล่าวอีกว่า ขอให้เข้าใจเรื่องดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เพราะไม่ได้จัดซื้อเข้ามาใหม่แต่อย่างใด แต่อยู่ในแพ็กเกจการต่อเรือหลวงท่าจีน และอยู่ในสัญญามาตั้งแต่ต้น เพียงแต่กระบวนการจัดหาอาวุธของสหรัฐหากจะขายอาวุธใครต้องผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสเท่านั้นเอง

“การซื้อฮาร์พูน เราเคยจัดซื้อมาตั้งนานแล้ว เอามาใช้ในเรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงสุโขทัย ซึ่งมีมาตลอดชุดนี้เป็นชุดที่ 3 ต่อไปก็จะมีชุดที่ 4 เอามาติดตั้งเพิ่มในเรือหลวงตรัง ดังนั้นผมขอย้ำว่าการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ผมกองทัพเรือมีความโปร่งใสและเป็นไปตามวงรอบ เรียกง่ายๆ ว่าจัดซื้อเป็นแพ็กเกจในการจัดหาตามช่วงเวลาเท่านั้นเอง”โฆษกกองทัพเรือ กล่าว