posttoday

ศาลปกครองเพิกถอนคำสั่งคลังปลด "ศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์"

01 สิงหาคม 2560

"ศาลปกครองกลาง"เพิกถอนคำสั่งคลัง ปลด "ศิโรตม์ "จากอธิบดีกรมสรรพากร ปมพิจารณาโอนหุ้น "บรรพจน์"ไม่ต้องเสียภาษี ชี้ใช้ดุลพินิจโดยชอบแล้ว

"ศาลปกครองกลาง"เพิกถอนคำสั่งคลัง ปลด "ศิโรตม์ "จากอธิบดีกรมสรรพากร ปมพิจารณาโอนหุ้น "บรรพจน์"ไม่ต้องเสียภาษี ชี้ใช้ดุลพินิจโดยชอบแล้ว

เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 658/2551 ลงวันที่ 12 พ.ค. 2551 ที่ลงโทษปลดนายศิโรตม์ สวัสดิ์พาณิชย์ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ออกจากราชการ กรณีมีความเห็นว่าการพิจารณารับโอนหุ้นบริษัทชินคอร์ปอร์เรชั่น จำกัด มหาชน ของนายบรรณพจน์ ดามาพงษ์ จาก น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ผู้ถือหุ้นแทนคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำนวน 4.5 ล้านหุ้น มูลค่า 738 ล้านบาทเมื่อปี 2540 ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ โดยศาลเห็นว่า นายศิโรตม์ ไม่มีความผิดตามที่ ป.ป.ช.ชี้มูล เนื่องจากการพิจารณาเรื่องยกเว้นภาษีดังกล่าว เป็นไปตามลำดับขั้นตอนของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งทั้งสำนักตรวจสอบภาษี และสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร ต่างเห็นตรงกันว่าเป็นการได้รับโอนจากการให้โดยเสน่หา เนื่องในพิธีหรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี และเป็นการได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา เข้าข่ายได้รับการยกเว้นภาษี

อีกทั้งไม่ปรากฏว่าในเวลานั้นกรมสรรพากรมีการกำหนดหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติเรื่องเงินที่ได้รับจากการอุปการะลักษณะดังกล่าวไว้ชัดเจน ดังนั้นการพิจารณาจึงอยู่ในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจสั่งการ ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายกรณี และในกรณีนี้ก็ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงที่แสดงว่านายบรรณพจน์หรือคุณหญิงพจมาน ให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่นายศิโรตม์ เพื่อให้มีความเห็นเป็นประโยชน์กับบุคคลทั้งสอง หรือมีพฤติการณ์ที่บ่งชี้ว่านายศิโรตม์มีเจตนาปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดได้รับประโยชน์ที่มิควรได้โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเจตนาไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบราชการ ที่เข้าข่ายเป็นผู้มีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง จนเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง ดังที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.)ได้ชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้ จึงมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ลงโทษปลดนายศิโรตม์ และให้กระทรวงการคลังคืนสิทธิประโยชน์ที่นายศิโรตม์ พึงได้รับหากมิได้ถูกลงโทษทางวินัยตามคำสั่งดังกล่าว นับตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 2549 ซึ่งเป็นวันที่คำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด

นอกจากนั้นศาลปกครองยังเห็นว่าอำนาจการพิจารณาคดีเกี่ยวกับการชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงของ ป.ป.ช. เนื่องจากการใช้อำนาจของป.ป.ช.ในการชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงนั้นเป็นการใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ป.ป.ช. 2542 ไม่ใช่การใช้อำนาจวินิจฉัยชี้ขาดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 223 วรรคสองแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น นายศิโรตม์ ซึ่งเดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยตัวเอง ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพูด ก็ขอที่จะไม่พูดต่อไป ขณะที่ตัวแทนของ ปปช. ระบุว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางต่อไป อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวศาลปกครองกลางเคยมีคำพิพากษาให้นายศิโรตม์ชนะคดีมาแล้ว และกระทรวงการคลังไม่ได้อุทธรณ์ ทำให้คดีถึงที่สุด แต่ ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ โดยอ้างว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการพิจารณาคดีแต่ต้น ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งให้ศาลปกครองกลางตั้งองค์คณะพิจารณาคดีใหม่