posttoday

สบายใจจัง

21 กันยายน 2553

แมนมากกับการที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมายอมรับจรวดอาร์พีจี หายไปจากคลังแสง ค่ายทหาร จ.ลพบุรี 30 ลูก

แมนมากกับการที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมายอมรับจรวดอาร์พีจี หายไปจากคลังแสง ค่ายทหาร จ.ลพบุรี 30 ลูก

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

แมนมากกับการที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกมายอมรับจรวดอาร์พีจี หายไปจากคลังแสง ค่ายทหาร จ.ลพบุรี 30 ลูก

แต่ที่มึนมาก ก็คือหายไปได้อย่างไร

และใครจะรับผิดชอบ

ค่ายทหารที่เก็บอาวุธ เอาอาร์พีจีเหน็บหู พกใส่กระเป๋าออกมาได้หรือ

คงไม่ต้องไปตามหรอกว่าอาร์พีจี หายไปไหน เอาไปทำอะไรกัน

ตั้งแต่ต้นปี อาร์พีจี ก็ระบาดไปทั่ว

เริ่มตั้งแต่กลางดึกวันที่ 20 มี.ค. อาร์พีจีถูกยิงใส่ กระทรวงกลาโหม

เรียกว่าเหยียบจมูกกันซึ่งหน้าก็ว่าได้

ถัดมาอีกเดือนเดียว 21 เม.ย. คนร้ายใช้อาร์พีจียิงถล่มคลังน้ำมันลำลูกกา บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย โดยยิงเข้ามาจากถนนมอเตอร์เวย์

เดชะบุญที่ไม่เกิดการระเบิด หรือความเสียหายอย่างรุนแรง

ช่วงเดือน พ.ค. ที่เกิดศึกแดงเผาเมือง ปะทะกันระหว่างทหารกับกองกำลังแดง ก็มีการใช้อาร์พีจีอย่างแพร่หลาย

อย่างการยิงเข้าไปในโรงแรมดุสิตธานี นั่นก็ใช่อีก

พอศึกแดงจบ ปฏิบัติการ อาร์พีจี ก็ยังไม่ยุติ 27 มิ.ย. อาร์พีจี 2 ลูก ยิงเข้าใส่คลังน้ำมันเชื้อเพลิง กรมพลาธิการทหารบก ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี

ปกติ ถังดังกล่าวเก็บน้ำมันได้ 10 ล้านลิตร แต่ส่งไปให้ ศอฉ. ใช้ในช่วงเหตุการณ์บ้านเมืองไม่สงบ จึงทำให้น้ำมันหดหาย รอดจากการระเบิดไป

นี่แหละ เดชะบุญที่หลายครั้ง ปฏิบัติการอาร์พีจี ไม่ประสบผลสำเร็จ

อาวุธสงครามเหล่านี้ ไม่มีขายตามท้องตลาด ลองคิดดูสิว่าเอามาจากไหน

สบายใจกันได้ พวกเรา

เพราะยังมีอาร์พีจีอีกหลายลูก รอเอาไว้ยิงเฉลิมฉลอง !!!