posttoday

มติสปท.หนุนรายงานปฏิรูปตำรวจ เพิ่มค่าตอบแทน-กำลังพล

18 กรกฎาคม 2560

มติสปท.หนุนรายงานปฏิรูปตำรวจ ชงเพิ่มค่าตอบแทน-ค่าเสี่ยงภัย-อัตรากำลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่

มติสปท.หนุนรายงานปฏิรูปตำรวจ ชงเพิ่มค่าตอบแทน-ค่าเสี่ยงภัย-อัตรากำลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเป็นขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. การประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสปท. คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม  เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สปท. เรื่อง การปฏิรูประบบงบประมาณกิจการตำรวจ เพื่อยกระดับความปลอดภัยของประชาชน โดยพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา  ประธานอนุกมธ. จัดทำรายงานฉบับดังกล่าว ระบุถึงสภาพปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังพล ยานพาหนะ  และเชื้อเพลิงของสถานีตำรวจทั่วประเทศ

โดยในส่วนอัตรากำลังพลขาดอยู่ 43,708 อัตรา จากจำนวนกำลังพลที่มีความจำเป็น 179,239 อัตรา รถยนต์ขาดอยู่ 18,892 คัน จากจำนวนความจำเป็นที่ต้องมี 24,775 คัน รถจักรยานยนต์ขาดอยู่ 12,626 คัน จากจำนวนความจำเป็นที่ต้องมี 49,658คัน การขาดแคลนดังกล่าวส่งผลให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่สามารถจัดวางกำลังในสายงานต่างๆโดยเฉพาะในเขตพื้นที่นครบาล ซึ่งมีกำลังสายตรวจอยู่เพียง 12,204 คน ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการป้องกันอาชญากรรม

ขณะเดียวกัน ยังมีปัญหาขาดแคลนเงินค่าตอบแทนการสอบสวนคดีอาญาของพนักงานสอบสวน เนื่องจากการทำสำนวนสอบสวน การรวบรวมพยานหลักฐานมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แต่พนักงานสอบสวนต้องสำรองเงินส่วนตัวออกไปก่อน บางคดีไม่สามารถเบิกจ่ายกลับคืนมาได้  เป็นเหตุให้พนักงานสอบสวนไม่อยากรับคดี เพราะจะมีค่า ใช้จ่ายตามมา ซึ่งปัจจุบันมียอดค้างการจ่ายค่าตอบแทนการทำสำนวนสอบสวนของพนักงานสอบสวน สะสมมาตั้งแต่ปี 2556-ปัจจุบัน เป็นจำนวนถึง 729 ล้านบาท จึงบั่นทอนประสิทธิภาพและขวัญกำลังใจพนักงานสอบสวนอย่างมาก

นอกจากนี้ ยังพบปัญหาเงินเดือนและค่าตอบแทนตำรวจสายปฏิบัติการไม่เหมาะสมกับภารกิจและความรับผิดชอบ และยังมีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต  บาดเจ็บมากกว่าข้าราชการพลเรือนอื่นๆ ถึง 13-56-22 เท่า แต่ได้รับเงินเดือนน้อย ทั้งที่ประเทศอื่นๆให้เงินเดือนตำรวจมากกว่าข้าราชการพลเรือนอื่นๆ  จากความตรากตรำของตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างหนัก จนเกิดความเครียด ทำให้มีสถิติตำรวจฆ่าตัวตายบ่อยครั้ง โดยปี 2557 มีตำรวจฆ่าตัวตาย 40 คน ปี2558 จำนวน38 คน ปี2559 จำนวน 35 คน รวม 3 ปี มีตำรวจฆ่าตัวตาย 113 คน

อย่างไรก็ดี กมธ.มีข้อเสนอการปฏิรูปตำรวจว่า ควรจัดสรรงบประมาณค่าตอบแทนสอบสวนคดี อาญาของพนักงานสอบสวนในแต่ละปีให้ครบถ้วนตามจำนวนคดีที่เกิดขึ้นจริง ไม่มียอดค้างชำระ ตลอดจนการปรับเงินประจำตำแหน่งของพนักงานสอบสวนให้เทียบเท่ากับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่น เช่น ศาล อัยการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

นอกจากนี้ ควรปรับค่าตอบแทนตำรวจให้เหมาะกับความเหน็ดเหนื่อยและความเสี่ยงภัย อาทิ การเพิ่มเงินประจำแหน่งสำหรับตำแหน่งที่มีความเสี่ยงภัย การเพิ่มเงินประจำตำแหน่งแก่ตำรวจที่ต้องเหน็ดเหนื่อยตรากตรำตามจำนวนชั่วโมงการทำงานที่เพิ่มขึ้นให้เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานการทำงานของข้าราชการพลเรือน

ทั้งนี้ สมาชิกสปท.ส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุนหลักการรายงานฉบับนี้ โดยเห็นด้วยให้เพิ่มอัตรากำลังพล และปรับค่าตอบแทนต่างๆให้เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขวัญกำลังใจตำรวจในการปฏิบัติงาน จากนั้นที่ประชุมจึงได้ลงมติเห็นชอบรายงานดังกล่าว ด้วยคะแนน 129 ต่อ1 งดออกเสียง16  และส่งรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ที่มีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธาน พิจารณาต่อไป