posttoday

พท.ซัด ศูนย์รับเรื่อง จนท.รัฐทุจริตซ้ำซ้อน เปลืองงบ

15 กรกฎาคม 2560

“เพื่อไทย”แนะให้ขรก.ตั้งแต่ ซี 3 แสดงบัญชีทรัพย์สิน ซัด ศูนย์รับเรื่อง จนท.รัฐทุจริตซ้ำซ้อน เปลืองงบประมาณ “สมคิด” มึนคิดไล่ล่าแต่นักการเมือง

“เพื่อไทย”แนะให้ขรก.ตั้งแต่ ซี 3 แสดงบัญชีทรัพย์สิน ซัด ศูนย์รับเรื่อง จนท.รัฐทุจริตซ้ำซ้อน เปลืองงบประมาณ  “สมคิด” มึนคิดไล่ล่าแต่นักการเมือง

เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายอำนวย คลังผา อดีตส.ส.ลพบุรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสนช.เป็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า หลักการบริหารราชการประเทศไทย ผู้ใช้งบประมาณคือข้าราชการ ฝ่ายการเมืองเพียงแต่เป็นผู้จัดสรรงบประมาณมาให้เท่านั้น การปรับแก้กวดขัดการดำเนินคดีกับนักการเมืองนั้นเห็นด้วย แต่ก็ต้องไปกวดขันในส่วนของข้าราชการด้วยเช่นเดียวกันจะมุ่งเน้นแต่ฝ่ายการเมืองอย่างเดียวไม่ได้ เพราะการทุจริตต้องมีหลายฝ่ายร่วมมือกันไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทุจริตได้ ส่วนตัวจึงเสนอให้ปรับแก้กฎหมาย ให้ข้าราชการตั้งแต่ ซี 3 ขึ้นไป ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เช่นเดียวกับนักการเมือง หากมีใครมาขอให้ข้าราชการร่วมมือทุจริตเขาจะได้กลัว ตรงนี้จะช่วยป้องกันการทุจริตในระดับปฏิบัติได้เป็นอย่างดี

นายอำนวย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช.สั่งการให้คสช.และหน่วยงานในพื้นที่ของกองทัพบก เปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐว่า การให้ประชาชนไปร้องเรียนในพื้นที่ทหาร เป็นการทำให้ประชาชนสิ้นเปลืองโดยเปล่าประโยชน์ เพราะพื้นที่ของกองทัพไม่ไม่ได้อยู่ในชุมชน และงานดังกล่าวกระทรวงมหาดไทยก็รับเรื่องราวร้องทุกของประชาชนที่ศูนย์ดำรงธรรมอยู่แล้ว การตั้งศูนย์เช่นนี้เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อน ความจริงนายกฯควรไปขวดขันการทำงานรับเรื่องราวร้องทุกของประชาชนที่มีอยู่แล้วจะดีกว่า และให้ทหารไปทำงานในหน้าที่หลักในการดูแลเรื่องความมั่นคง พร้อมทั้งมองว่าผู้มีอำนาจควรให้อำนาจแต่จำเป็นจะทำให้ประชาชนในกรอบระเบียบของสังคม ไม่ใช่มีอำนาจแล้วใช้ตามใจอยากจะตั้งศูนย์อะไรก็ตั้ง อยากจะสั่งอะไรก็ไม่ เพราะถ้าคนรู้สึกเช่นนี้แล้วคำสั่งที่ออกมาจะไร้ความหมาย

นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสนช.เป็นชอบแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีสาระสำคัญไม่ให้นับอายุความของคดีในระหว่างที่จำเลยหลบหนีคดี และให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาไต่สวนคดีลับหลังจำเลยได้ว่า ก่อนอื่นต้องถามว่าการระบุให้กฎหมายไม่มีอายุความและให้สืบพยานลับหลังได้มันสอดคล้องกับหลักสากลหรือไม่ แล้วเหตุใดคนออกกฎหมายถึงมาไล่ล่าแต่นักการเมือง คนที่โกงมีแต่นักการเมืองหรือ ข้าราชการและภาคเอกชนไม่มีใครโกงเลยหรือ ข้อเท็จจริงทุกสังคมมีทั้งคนดีและไม่ดี แล้วทำไมไม่มีกฎหมายไปไล่ล่าคนกลุ่มอื่นบ้าง และไม่ว่าจะเขียนกฎหมายให้น่ากลัวเพียงใดก็ไม่ได้หมายความว่าการทุจริตจะไม่เกิดขึ้นอีก มันต้องไปแก่ในส่วนอื่นด้วยเช่นการให้ความรู้แก่สังคมถึงผลเสียรุนแรงของการทุจริต