posttoday

"ศิริชัย"แถลงเสียงสะอื้นโดนตั้งกก.สอบ-ถูกย้ายพ้นประธานศาลอุทธรณ์

12 กรกฎาคม 2560

ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงเสียงสะอื้นโดนตั้งกก.สอบ-ถูกย้ายนั่งที่ปรึกษาปธ.ศาลฎีกา ยันไม่คิดลาออก โอดขออยู่ที่เดิมก็ไม่ให้อยู่

ประธานศาลอุทธรณ์ แถลงเสียงสะอื้นโดนตั้งกก.สอบ-ถูกย้ายนั่งที่ปรึกษาปธ.ศาลฎีกา ยันไม่คิดลาออก โอดขออยู่ที่เดิมก็ไม่ให้อยู่

เมื่อวันที่ 12 ก.ค. เวลา  11.00 น. ที่สำนักงานศาลอุทธรณ์ ถ.รัชดาภิเษก นายศิริชัย วัฒนโยธิน ประธานศาลอุทธรณ์  แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังมีข่าวคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม  (ก.บ.ศ.) เปิดตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา โดยการย้ายประธานศาลอุทธรณ์มาดำรงตำแหน่ง และเสนอตั้งกรรมสอบสอบข้อเท็จจริงถึงการปฏิบัติราชการจนไม่ผ่านการคัดเลือกเป็นประธานศาลฎีกาว่า เรื่องมติของคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เรื่องเสนอตั้งกรรมการสอบสวน และเสนอ ก.บ.ศ.เปิดตำแหน่งที่ปรึกษาฯ นั้นยังไม่ได้รับทราบทางการจาก ก.ต. และไม่แน่ใจว่าตำแหน่งที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากดูแล้วเห็นว่าศาลจะตั้งตำแหน่งใหม่เองโดยไม่ผ่านรัฐสภาหรือไม่ เรื่องนี้มีคนทักท้วงมาเช่นกัน

เนื่องจากตาม พ.ร.บ.ให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ.2543  และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 8 บัญญัติเกี่ยวกับศาลฎีกาว่า ให้มีประธานศาลฎีกาประจำศาลฎีกาหนึ่งคน ให้มีรองประธานศาลฎีกาประจำศาลฎีกาหนึ่งคน แต่ไม่เกินหกคน เมื่อตำแหน่งประธานศาลฎีกาว่างลง หรือไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รองประธานศาลฎีกาที่มีอาวุโสสูงสุดเป็นผู้ทำการแทน

นายศิริชัย กล่าวว่า ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและไม่เคยมีเรื่องทุจริตมาเกี่ยวข้อง โดยทำเพื่อประชาชนมาตลอดไม่เคยทำงานน้อยกว่าใคร ส่วนหากมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่เคยกลัว ชีวิตไม่เคยทำสิ่งไม่ดี จะสอบอย่างไรก็ไม่กลัว  และไม่มีคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) คนไหนบอกว่าตนทุจริต ไม่เคยทุจริต แต่ถ้าจะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ไม่ขัดข้อง เพราะไม่มีสิทธิมีเสียงไปบอกว่า ตั้งหรือไม่ตั้ง อยู่ที่ ก.ต. ไม่สามารถลิขิตเองได้ และย้อนถามผู้สื่อข่าวว่ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดทาง ก.ต.ถึงไม่เห็นชอบตนนั่งประธานศาลฎีกาเพราะอะไร ให้ไปสืบมา

อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพราะผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์หลายรายกดดัน ไม่ต้องการให้อยู่หรือไม่ นายศิริชัย กล่าวว่า จะมีใครเอา หรือไม่เอา ไม่ใช่ตรงนั้น แต่ตนเคยเป็น ก.ต. เก่า เป็นหัวหอกที่เอาคนทุจริตระดับใหญ่ๆออกไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว

"แนวทางปฏิบัติเดิมตามนิติประเพณีหากไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานศาลฎีกา ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่เดิมต่อไป เพราะที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น ผมอาจเป็นคนแรกที่ถูกย้ายไป และประธานศาลอุทธรณ์เป็นรองแค่ประธานศาลฎีกาเท่านั้น  ไม่มีทางต่ำกว่าตำแหน่งอื่น ทั้งยังเป็นประธานกรรมการศาลยุติธรรมโดยตำแหน่ง ดูแลฝ่ายธุรการและเป็นอุปนายกของเนติบัณฑิตยสภาโดยตำแหน่งด้วย แต่ที่ปรึกษาประธานศาลฎีกา มีตรงนี้หรือไม่ ทำให้คิดว่าที่ปรึกษาประธานศาลฎีกาสูงกว่าจริงหรือ เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกัน"นายศิริชัย กล่าว

ประธานศาลอุทธรณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ว่า  ตอนนี้ยังไม่คิดลาออกเพราะยังรักสถาบันนี้อยู่ทำงานเป็นผู้พิพากษามานานกว่า 40 ปี  ไม่อยากจะพูดอะไรที่มันอยู่ในอกตอนนี้ เพราะถือว่าเจ็บปวดรวดร้าว พูดไปสถาบันจะเสียหายว่าเป็นถึงขนาดนี้หรือ ขอเก็บความรู้สึกไว้ก่อนจนกว่าจะไม่ไหว ถือว่าตนโดนกระทำอยู่ตลอด ขออยู่ที่เดิมก็ไม่ให้อยู่ ถ้าเกิดขึ้นจริง ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน เพราะก็ยังรักองค์กร

"ตั้งแต่เป็นประธานศาลอุทธรณ์ เมื่อปี 2558 ได้ปรับปรุงแก้ไขการทำคดีให้รวดเร็วยิ่งขึ้นไม่มีคดีค้างเก่าข้ามปี ทั้งยังมีนโยบายประหยัดไฟฟ้า ประปา ลดใช้กระดาษ ทำให้ลดค่าใช้จ่ายของศาลอุทธรณ์ไปได้เยอะ และนำเทคโนโลยีมาปรับใช้" นายศิริชัย กล่าว