posttoday

"สมเจตน์"ยอมถอยแก้ระบบไพรมารีโหวต

11 กรกฎาคม 2560

"สมเจตน์"ยอมถอยแก้ระบบไพรมารีโหวต พร้อมเตรียมออกบทเฉพาะกาลให้หัวหน้าพรรคลงสส.เขตได้

"สมเจตน์"ยอมถอยแก้ระบบไพรมารีโหวต พร้อมเตรียมออกบทเฉพาะกาลให้หัวหน้าพรรคลงสส.เขตได้

เมื่อวันที่ 11 ก.ค.พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวถึงข้อเสนอของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ในการปรับปรุงร่างดังกล่าวในเรื่องไพรมารีโหวตว่า ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมร่วมกับกรธ. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  เพียงแค่ได้รับหนังสือจากกรธ.ที่ระบุว่า ร่างพ.ร.บ.นี้ไม่ตรงเจตนารมณ์รัฐธรรม นูญ 4-5 ข้อ  แต่กรธ.ไม่ได้คัดค้าน การให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมคัดเลือกตัวผู้สมัคร

ทั้งนี้ เห็นว่า กระบวนการให้สาขาพรรคคัดเลือกผู้สมัครอาจทำให้เกิดขั้นตอนคัดเลือกที่ไม่สุจริตได้ ซึ่งกมธ.ไม่ขัดข้องที่จะแก้ไขกระบวนการต่างๆให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น จึงพร้อมปรับปรุงขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครให้ชัดเจน โดยให้ขั้นตอนการคัดเลือกผู้สมัครเป็นกิจการภายในพรรคการเมือง ที่หัวหน้าพรรคต้องดูแลรับผิดชอบกระบวนการคัดเลือกให้ถูกต้องตามกฎหมาย แต่กกต.ไม่มีอำนาจแจกใบ เหลืองใบแดงขั้นตอนไพรมารีโหวตได้ 

“หากมีความไม่ถูกต้องเกิดขึ้นในการคัดเลือกผู้สมัคร ให้ผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรม ใช้ช่องทางฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายได้  โดยหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคต้องเป็นผู้ร่วมรับผิดชอบด้วย รวมทั้งจะโยงไปถึงกรณีผู้ที่ได้เป็นสส. หากภายหลังพบว่า ได้เป็นผู้สมัครระบบไพรมารีโหวตโดยไม่ถูกต้อง และถูกลงโทษจำคุก จะมีผลให้ต้องพ้นสภาพจากสส.ในทันที”พล.อ.สมเจตน์ กล่าว

ขณะเดียวกันจะทบทวนประเด็นการแก้ไขให้หัวหน้าพรรคไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ ลำดับ 1 ตามร่างที่กมธ.แก้ไข เพราะอาจเป็นการจำกัดสิทธิหัวหน้าพรรคที่อยากไปลงสส.เขต จึงพร้อมแก้ไขเปิดช่องให้หัวหน้าพรรคสามารถไปลงสส.เขตได้  เพียงแต่หัวหน้าพรรคต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกจากสมาชิกพรรคในระบบไพรมารีโหวตเช่นกัน

นอกจากนี้ จะออกบทเฉพาะกาลในการเลือกตั้งสมัยหน้าผ่อนปรนให้พรรคการเมืองที่มีตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 100 คน เพียงเขตเดียว สามารถส่งผู้สมัครเลือกตั้งได้ทั่วทุกเขตในจังหวัด จากเดิมที่กำหนดให้มีตัวแทนพรรคประจำเขตเลือกตั้งเขตละ 100 คน ครบทุกเขตเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้ ซึ่งข้อบัญญัติเช่นนี้ทำให้กรณีที่ระบุว่าพรรคใหญ่ได้เปรียบพรรคเล็กไม่เป็นความจริง 

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะให้กกต.เข้ามาดูแลการคัดเลือกผู้สมัครในระบบไพรมารีโหวต เพราะมีเครื่องมือนับคะแนนระบบอิเลคทรอนิคส์ อาจนำมาใช้ช่วยจัดการเลือกตั้งในระบบไพรมารีโหวตและการเลือกตั้งทั่วไปได้ เพียงแต่ในครั้งแรกกกต.อาจยังไม่มีความพร้อม  จึงเกรงว่าอาจเกิดปัญหาขึ้น

ส่วนที่มีกระแสข่าวเรื่องการคว่ำร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง ภายหลังกมธ.ร่วมได้ปรับปรุงร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้แล้ว พล.อ.สมเจตน์ ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกับกรธ. จึงไม่มีเหตุผลที่จะทำให้การทบทวนร่างพ.ร.บ.พรรคการเมือง นำไปสู่การคว่ำร่าง เพราะไม่มีประเด็นใดที่กมธ.จะรับไม่ได้ ที่จะแก้ไขตามที่กรธ.ให้คำแนะนำมา เพราะมีเจตนารมณ์ตรงกัน คือ อยากให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง แต่วิธีคิดการทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ย่อมมีความคิดแตกต่างกัน ถือเป็นความงดงามในระบอบประชาธิปไตย