posttoday

แมงเม่า

17 กันยายน 2553

การแข็งตัวของค่าเงินบาท เป็นประเด็นร้อนที่ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์

การแข็งตัวของค่าเงินบาท เป็นประเด็นร้อนที่ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์

โดย...ณ กาฬ เลาหะวิไลย

การแข็งตัวของค่าเงินบาท เป็นประเด็นร้อนที่ต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างผู้ส่งออก ร้องแล้วร้องอีก ทำให้การส่งออกมีปัญหา

ข่าวลือก็แพร่สะพัดโดยเฉพาะการคุมไม่ให้บาทแข็งเกิน

แต่สิ่งที่น่าพิจารณาควบคู่กันไปก็คือการแข็งค่าของเงินบาท เกิดจากการเก็งกำไร หรือเพราะพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี โดยปัจจัยใดมีมากน้อยกว่ากัน

หากค่าเงินแข็งมาจากการเก็งกำไร ก็อันตรายใหญ่หลวง

เพราะต่างชาติกำลังจ้องกินตับสดๆ

มหกรรมเปิบพิสดารจะเริ่มต้นจากการที่ต่างชาติเทขายดอลลาร์ และซื้อบาท อาจเริ่มจากช่วงที่ค่าเงินอยู่ที่ 33 บาท แลกได้ 1 ดอลลาร์ และขายดอลลาร์ซื้อบาทเรื่อยมา

เมื่อได้เงินบาทเข้ามาแล้ว ก็เอาไปลงทุนในตลาดหุ้น จนดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์พุ่งพรวดพราดจาก 800 จุดเศษๆ ขึ้นไปทะลุ 900 จุด

หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นจนพอใจแล้ว ต่างชาติจะเทขายหุ้น เนื่องจากต้นทุนที่ซื้อมาในมือมันต่ำ

ฟันกำไรต่อแรกไปเรียบร้อย

เมื่อขายหุ้นเสร็จสรรพ ต่างชาติจะได้เงินบาทกลับมา จากนั้นก็จะเอาเงินบาทไปซื้อดอลลาร์กลับคืน

ฟันกำไรระลอก 2

เพราะค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ทำให้ใช้เงินน้อยลงในการซื้อดอลลาร์

อาทิ ต้นทุนเดิมของต่างชาติก็คือ 1 ดอลลาร์แลกเงินบาทได้ 33 บาท แต่ตอนซื้อคืนอาจใช้แค่ 30 บาทเท่านั้น

ส่วนต่างที่ได้ก็คือกำไร 10%

บทสุดท้ายเมื่อฟันกำไรจนพอ ต่างชาติจะหอบเงินร้อนโบยบินไปเก็งกำไรตลาดอื่นๆ ทั่วโลก ทิ้งซากแมงเม่าแมงกุดจี่ ที่ตายเกลื่อนเมืองเอาไว้ดูต่างหน้า

การฟันกำไรทั้งตลาดเงิน และตลาดหุ้นเคยเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่มีใครรู้ว่า จะซ้ำรอยเดิมอีกอีกเมื่อไร

แต่ในโลกทุนนิยมมีสัจธรรมอันคงที่ไม่แปรเปลี่ยน

นั่นคือปลาเล็ก มักจะเสร็จปลาใหญ่เป็นนิรันดร์!!!