ร้อง "บิ๊กตู่" ทบทวนปฏิรูปตำรวจ ขยายเวลารับฟังความเห็น

เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจร้องนายกฯ ทบทวนสูตรปฏิรูปตำรวจเพิ่มเวลาฟังความเห็นประชาชน

เครือข่ายประชาชนปฏิรูปตำรวจ (คป.ตร.) ออกแถลงการณ์ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ทบทวนวิธีทำงานโดยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนร่างกฎหมายปฏิรูปด้วยสูตร 4-3-2

แถลงการณ์อธิบายสูตรปฏิรูปตำรวจ คือ 4 เดือนแรก ศึกษาข้อมูลและงานวิจัยต่างๆ พร้อมเปิดรับฟังความเห็นจากประชาชน รวมทั้งตำรวจผู้น้อยและพนักงานสอบสวน ส่วนอีก 3 เดือนจัดทำร่างกฎหมาย 2 เดือนสุดท้ายรับฟังความเห็นเพิ่มเติมปรับแก้ไขในส่วนที่บกพร่อง โดยสูตรดังกล่าวเปลี่ยนแปลงจากสูตร 2-3-4 ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบนโยบายไว้

ทั้งนี้ คป.ตร.เห็นด้วยกับนายกฯ ในการมอบนโยบายว่าต้องกระจายอำนาจตำรวจลงสู่จังหวัด และทำให้งานสอบสวนมีความเป็นอิสระ ซึ่งนายกฯ สามารถทำได้ตามอำนาจที่มีอยู่ปัจจุบัน

นอกจากนี้ คป.ตร.เห็นว่า การรับฟังความคิดเห็น ควรเป็นกระบวนการที่ต้องกระทำเป็นวาระแรกก่อนเริ่มร่างกฎหมาย

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดเผยว่า ประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปตำรวจมานานมาก จึงถือว่ารัฐบาลได้ทำตรงตามที่ประชาชนต้องการ ดังนั้นหากใครพูดว่าจะยุติการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ ก็เป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญ

“หากทำได้จริงก็ต้องอนุโมทนาสาธุ การทำให้ตำรวจเลื่อนขึ้นโดยลำดับอาวุโส 50 เปอร์เซ็นต์ จะลดการวิ่งเต้นได้ระดับหนึ่ง รวมถึงการให้ประชาชนที่มีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ ได้เข้าไปเป็นคณะกรรมการระดับจังหวัดในจำนวนเกินครึ่ง ก็จะช่วยตรวจสอบองค์กรตำรวจในระดับปฏิบัติได้” นายวิรัตน์ กล่าว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า รัฐบาลพยายามเร่งปฏิรูปหลายเรื่อง ทั้งปฏิรูปการเมือง หรือปฏิรูปตำรวจ แต่อย่าลืมปัญหาสำคัญอีกเรื่องที่มีต่อเนื่องตลอด 3 ปีของรัฐบาลนี้ คือ ประชาชนอยากให้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจเรื่องปากท้อง

“วันนี้ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจติดขัดจนชาวบ้านใช้ชีวิตประจำวันอย่างฝืดเคือง เเม้รัฐบาลจะพยายามแก้ไขด้วยนโยบายต่างๆ แต่ยังไม่ส่งผลถึงประชาชนรากหญ้าให้รู้สึกว่ามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้รัฐบาลหันมาใส่ใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ” นายองอาจ กล่าว

ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) มีคำสั่งประชุม สปท.ในวันอังคารที่ 11 ก.ค. โดยมีวาระสำคัญ พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน จำนวน 2 เรื่อง คือ 1.การส่งเสริมกิจการไฟฟ้าเสรีที่ใช้พลังงานทดแทนในระดับชุมชน และ 2.การส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยภาคอุตสาหกรรมและกิจการพลังงาน