posttoday

สนช.ผ่านพ.ร.ก.ต่างด้าวแนะรัฐบาลคสช.สกัดรีดไถ

06 กรกฎาคม 2560

สนช.อนุมัติพรก.แรงงานต่างด้าวแนะรัฐบาลสกัดการทุจริตรีดไถ อธิบดีกรมจัดหางาน ย้ำ ค่าธรรมเนียมรวมไม่เกิน 1,500บาทพบเจ้าหน้าที่ทุจริตดำเนินการเฉียบขาด

สนช.อนุมัติพรก.แรงงานต่างด้าวแนะรัฐบาลสกัดการทุจริตรีดไถ อธิบดีกรมจัดหางาน ย้ำ ค่าธรรมเนียมรวมไม่เกิน 1,500บาทพบเจ้าหน้าที่ทุจริตดำเนินการเฉียบขาด

ที่ประชุมสภานิติบัญญติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 177 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง อนุมัติ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 ซึ่งจะมีมีผลให้พ.ร.ก.ฉบับนี้ มีผลใช้บังคับเป็น พ.ร.บ.ต่อไป

พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน กล่าวว่า หลักการและเหตุผลของการออก พ.ร.ก.ฉบับนี้ สืบเนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 2 ฉบับ ทั้ง พ.ร.บ.การทำงานคนต่างด้าว 2551 พ.ร.บ.การนําคนต่างด้าวมาทํางานกับนายจ้างในประเทศ 2559 ไม่สอดคล้องครอบคลุมการทำงานต่างด้าวทั้งระบบ ทำให้ไม่สามารถป้องกันปัญหาแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ดำเนินการอย่างเร่งด่วน จะส่งผลกระทบความมั่นคงเศรษฐกิจสังคม อีกทั้งการออกพ.ร.ก.ฉบับนี้ คำนึงถึงประโยชน์ของความมั่นคงของชาติ เศรษฐกิจ สังคม สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และทำให้การแก้ปัญหาเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  

บรรยากาศในที่ประชุมส่วนใหญ่สมาชิกเห็นด้วยกับการออก พ.ร.ก.แต่ควรปรับปรุงรายละเอียดโดยเฉพาะการดำเนินการขึ้นทะเบียนให้รวดเร็ว และไม่ให้มีปัญหาเรียกรับผลประโยชน์  โดยนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ สนช. กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวจำเป็นสำหรับไทย ตั้งแต่ 20 ปีผ่านมา ขณะที่ปัญหาคือการขึ้นทะเบียนให้ถูกกฎหมายเป็นเรื่องที่ดี แต่ยังไม่มีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนซึ่งต่อมาคสช.รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น และออกมาตรา 44 มาชะลอการบังคับใช้ใน 4มาตรา ซึ่งช่วยหยุดการตื่นตระหนก
ทั้งนี้ ต้องยอมรับความจริงว่าเราต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว ดังนั้นจะต้องอำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียนตั้งแต่ต้น และจะทำให้การค้ามนุษย์หายไป รวมทั้งจะต้องรับฟังจากผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำมาปรับแต่งในการออกกฎกระทรวงข้อบังคับต่อจากนี้  ปิดทางไม่ให้เกิดการตั้งด่านรีดไถ

นายสุพรรณ มงคลสุธีร์ สนช. กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยแก้ปัญหาแรงงาน จากปัจจุบันมีแรงงานที่ขึ้นทะเบียนถูกต้อง 1.3 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ขณะที่แรงงานจำนวนมากเกือบ 3 ล้านคนอยู่ในอุตสาหกรรมเล็กรองลงมา การจะนำแรงงานนี้เข้าสู่ระบบเรื่องสำคัญคือการอำนวยความสะดวก จากประสบการณ์ ขึ้นทะเบียน 1 วันเต็มๆได้เพียงแค่บัตรคิวซึ่งเป็นปัญหา

ทั้งนี้ แรงงานส่วนนี้จะเข้ามาทำงานแทนคนไทยที่ขาดไป เสริมให้เศรษฐกิจแข็งแรง การแก้ปัญหาการขึ้นทะเบียน คือการอำนวยความสะดวก ทั้งการเอาเทคโนโลยีมาใช้ หรือใช้เอาท์ซอร์ส ให้เอกชนเข้ามาทำงานซึ่งเชื่อว่าจะทำได้ดี โดยให้มองแรงงานเหล่านี้เป็นลูกค้า อย่ามองว่าเป็นผู้สร้างปัญหา

ด้าน พ.ต.ท.พงษ์ชัย วราชิต สนช. กล่าวว่า การออกพ.ร.ก. นี้ รัฐบาลมาถูกทาง โดยการขึ้นทะเบียนจะต้องอำนวยความสะดวกตั้งแต่ต้นทาง ไม่ให้ต้องมาคอยตั้งด่านจนถูกโวยวายสร้างความเสียหาย อย่างไรก็ตามเห็นว่าคำนิยาม เรื่องผู้ประอบการต้องกำหนดให้ชัดเจให้ชัดเจน รวมถึงกรณีที่แรงงานปรับเปลียนนายจ้าง  อย่างจ้างแม่บ้านมาก็ไม่ใช่จ้างมาล้างจานอย่างเดียวแต่ต้องทำงานหลายอย่าง ที่จะต้องสร้างความชัดเจน

น.ส.จินตนันท์ ชญาต์ร ศุภมิตร  สนช. กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนจะต้องพัฒนาระบบให้ดี มากกว่าการปล่อยให้เป็นเรื่องดุลพินิของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์ อีกทั้งควรจะต้องเชื่อมข้อมูล ทั้งตำรวจ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ ในกรณีที่มีเรื่องจะได้สามารถติดตามตัวได้

พล.อ.ศิริชัย กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาแรงงานให้สำเร็จ ซึ่งจะเชื่อมโยงถึงเรื่องการค้ามนุษย์ แรงงานเด็ก โดยมีการประชาสัมพันธ์มาตั้งแต่ปี 2557  และเมื่อปีที่แล้วมีการรณรงค์อย่างหนักใภายใต้สโลแกน  “ผิดเป็นจับปรับเป็นแสน” ก่อน พ.ร.ก. มีผลบังคับใช้ก็รณงค์ผ่านทุกสื่ออย่างหนัก

ด้าน นายวรานนท์ ปีตินันท์อธิบดี อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า เวลานี้ได้ดำเนินการเตรียมความพร้อมการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องทั้งเพิ่มจำนวนศูนย์ และจัดหาเจ้าหน้าที่มาดำเนินการเพื่อให้ระยะเวลาการดำเนินการไม่นานเกินไป รวมทั้งประสานกับประเทศพม่า กัมพูชา ลาว เพื่อให้ข้อมุลรายละเอียดกับมาตรการที่ออกมา

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการดำเนินการจะใช้เวลาไม่เกิน 1 วันสำหรับการพิสูจน์สัญชาติ สำหรับใช้ในประเทศไทย มีอายุ 4 ปี เพื่อให้แรงงานต่างด้าวนำไปขอวีซ่ากับ ตม. เพื่อมาขอใบอนุญาตทำงาน กับกรมการจัดหางาน ขณะที่ขั้นตอนการตรวจโรคจะต้องไปตรวจกับทางโรงพยาบาลรัฐ เพื่อเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยค่าใช้จ่าย ธรรมเนียมทั้งหมดรวม 1,500 บาท ไม่ใช่เสียหลายๆหมื่นอย่างที่กังวลกัน

นายวรานนท์ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอต่างๆ นั้นจะรับไปพิจารณา เช่นการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้นั้น ก่อนสิ้นปีจะได้เห็นเวอร์ชวลเวอร์คเพอร์มิทสำหรับแรงงานที่มีสมาร์ทโฟน ที่จะอำนวยความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับบัญชาจากรัฐมนตรี เรื่องป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่ทุจริต ซึ่งได้ย้ำไปยังเจ้าหน้าที่แล้ว หากพบการทุจริตก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาดจริงจัง