posttoday

พรรคเล็กโวยกกต.เชิญแต่พรรคใหญ่ร่างระเบียบเลือกตั้ง

21 มิถุนายน 2560

"อุเทน" โวย กกต.คิดตื้นขอความเห็นแค่พรรคใหญ่ร่วมร่างระเบียบเลือกตั้ง สับไร้วุฒิภาวะ-สมควรโดนโละหนุนใช้มท.ร่วมตร.-ทหารคุมเลือกตั้งดีกว่า

"อุเทน" โวย กกต.คิดตื้นขอความเห็นแค่พรรคใหญ่ร่วมร่างระเบียบเลือกตั้ง สับไร้วุฒิภาวะ-สมควรโดนโละหนุนใช้มท.ร่วมตร.-ทหารคุมเลือกตั้งดีกว่า

นายอุเทน ชาติภิญโญ หัวหน้าพรรคคนไทย กล่าวถึงกรณีที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ได้เชิญตัวแทนพรรคการเมืองบางพรรค เข้าร่วมหารือการจัดทำร่างระเบียบหรือประกาศตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองว่า การที่ กกต.เชิญตัวแทนพรรคการเมืองเพียงไม่กี่พรรคจากทั้งหมดที่มีมากกว่า 70 พรรคในปัจจุบัน เข้าหารือในการวางระเบียบอันเกี่ยวเนื่องกับพรรคการเมืองนั้น ชี้ให้เห็นถึงการขาดวิจารณญาณที่ดีของ กกต. และยังขาดความเข้าใจเรื่องการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างชัดเจน เพราะเท่ากับ กกต.ให้ความสำคัญเฉพาะกับพรรคการเมืองที่มีชื่อเสียง แต่ก็ถือเป็นพรรคการเมืองส่วนน้อย ทั้งที่ระเบียบที่ออกมาจะมีผลต่อทุกพรรคการเมืองในอนาคต อีกทั้งยังขาดการเปิดกว้างรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้าน ถือเป็นการตอกย้ำความไร้วุฒิภาวะของ กกต.ชุดนี้เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกใจที่หลายฝ่านสนับสนุนให้มีการบัญญัติให้ กกต.ชุดปัจจุบันต้องพ้นจากตำแหน่ง หรือเซตซีโร กกต. หลังร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีผลบังคับ

"หาก กกต.ขาดวุฒิภาวะเช่นนี้ก็สมควรที่ถูกโละทิ้งยกชุด การให้ความสำคัญกับพรรคการเมืองที่แม้มีชื่อเสียง แต่ก็เป็นเพียงส่วนน้อย ก็เพิ่มน้ำหนักความไร้คุณภาพ ไร้วุฒิภาวะของ กกต.ชุดปัจจุบันได้เป็นอย่างดี" นายอุเทน ระบุ

นายอุเทน กล่าวต่อว่า ในความเป็นจริง นอกจาก กกต.ชุดนี้จะขาดความเข้าใจการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และการสร้างความมีส่วนร่วมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกไม่นานก็มีการเซตซีโร กกต.อีก ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะให้ กกต.ชุดนี้มามีส่วนในการวางกฎเกณฑ์กติกาต่างๆ กำหนดทิศทางความเป็นไปในอนาคตเช่นนี้ และส่วนตัวยังเห็นว่า การที่มี กกต.มาดูแลเรื่องการเลือกตั้ง ตั้งแต่ในรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นต้นมา กกต.แทบทุกชุดต่างก็เป็นปัจจัยสำคัญและตัวเร่งให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในสังคมมากมาย หลายครั้งทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น ไม่เพียงเท่านั้น กกต.บางชุดยังมีการกระทำที่เข้าข่ายฉ้อฉลจนถูกตัดสินว่ามีความผิด ด้วยพฤติกรรมตลอดระยะเวลาที่มี กกต.มา

อีกทั้งโครงสร้างของ กกต.ที่ออกแบบไว้ให้คนไม่กี่คนมามีอำนาจที่เหนือกว่าคนทั้งประเทศ จึงไม่สมควรให้หน่วยงานนี้เข้าไปตัดสินชี้ถูกชี้ผิด เป็นกรรมการให้คุณให้โทษแก่ผู้ใด หากเป็นไปได้ อยากเสนอให้อำนาจในการกำกับดูแลการเลือกตั้งในระดับต่างควรกลับไปใช้กลไกของ กระทรวงมหาดไทย ตามรูปแบบเดิมก่อนปี 2540 โดยอาจจะใช้ภาคส่วนอื่น ทั้งกระบวนการยุติธรรม ตำรวจ หรือทหาร ในการเข้ามาบูรณาการร่วมกันจัดการเลือกตั้งแทน กกต. ซึ่งน่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่า.