posttoday

"วัฒนา" เชื่อ มีใบสั่ง เร่งรัดคดี บ้านเอื้ออาทร

15 มิถุนายน 2560

"วัฒนา" เชื่อ มีใบสั่ง เร่งรัดคดี บ้านเอื้ออาทร จวก "ประยุทธ์" แทรกแซงคดี พร้อมสู้ดคี ไม่เลิกวิจารณ์รัฐบาล เชื่อ ปรองดองเกิดยาก

"วัฒนา" เชื่อ มีใบสั่ง เร่งรัดคดี บ้านเอื้ออาทร จวก "ประยุทธ์" แทรกแซงคดี พร้อมสู้ดคี ไม่เลิกวิจารณ์รัฐบาล เชื่อ ปรองดองเกิดยาก

เมื่อวันที่ 15 มิย.ที่พรรคเพื่อไทย นายวัฒนา เมืองสุข อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวปปช.ชี้มูลความผิดทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรว่า เป็นเรื่องการเมือง เป็นความพยายามของผู้มีอำนาจโดยนำเรื่องคดีมาบีบไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์ เรื่องคดีก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผู้มีอำนาจมักนำเรื่องคดีมาขู่ เวลาตนวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุ นักการเมืองบางคนไม่กลัวหรือ ยังมีคดีอยู่ในปปช.ไม่ว่าจะมีแรงกดดันใดๆ ยังทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ สิ่งที่เกิดขึ้นมีการแทรกแซง มีใบสั่ง จะให้มาปิดปาก คดีนี้เกิดมาตั้งแต่รัฐประหารปี2549 ข้อที่น่าสังเกต มีระยะเวลาเนิ่นนาน แต่กลับถูกเร่ง ในช่วงที่รัฐบาลถูกวิจารณ์หนักๆ ตนไม่ได้โดนคดีนี้เป็นคดีแรก โดนทั้งคดีเรื่องหวย เรื่องรถดับเพลิง มาถึงรัฐบาลนี้ก็โดนทั้งพรบ.คอมพิวเตอร์ ล้วนเป็นคดีที่เกิดจากการรัฐประหาร แม้แต่ส่งคนไปชกก็เคยมาแล้ว เรื่องที่ทำให้ตนหยุดวิพากษ์วิจารณ์ได้คือ รัฐบาลทำให้ดี ถ้าทำดี ก็คงวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ ผู้มีอำนาจมีวัตถุประสงค์ กดดันเร่งรัดคดีให้ตนเกรงกลัว พร้อมทั้งดิสเครดิต เรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ก็เป็นเรื่องหนึ่ง เรื่องคดีก็ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามว่าจะทำคำร้องไปปปช.เพื่อเตรียมคำโต้แย้งหรือไม่ นายวัฒนากล่าวว่า เรื่องนี้คตส.เคยส่งเรื่องไปอัยการสูงสุดให้ดำเนินคดี จากนั้นมีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับปปช. และมีมติให้รอผลไต่สวนจากปปช.จนการไต่สวนมานานกว่า10ปี เรื่องนี้ ถ้ามีช่องก็คงเสร็จไปนานแล้ว ถ้าถูกดำเนินคดีคงติดคุกไป 3 รอบ ผู้มีอำนาจพยายามแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ย้ายอัยการสูงสุดก็เคย รวมทั้งพล.อ.ประยุทธ์เอง ก็พูดถึงปปช. เวลาที่ตนวิพากษ์วิจารณ์ เหมือนว่ากระบวนการยุติธรรมถูกพล.อ.ประยุทธ์ แทรกแซงได้หรือไม่ สำหรับแนวทางการต่อสู้ ก็เป็นไปตามปกติ เมื่อตนเสียภาษีก็มีสิทธิวิพากษ์วิจารณ์คนทำงาน คดีนี้ถ้าส่งฟ้องก็ไปประกันตัว เราไม่มีอภิสิทธิ์กับคดี นักการเมืองที่มาจากประชาชนตรวจสอบได้ ไม่เหมือนเทวดาที่ไม่ได้มาจากประชาชน กระบวนการที่ปรองดองกำลังปรองดอง สำหรับสายตาอีกฝั่ง คงไกลเกินฝัน

“โดนชกก็เคยมาแล้ว ขึ้นศาลทหารก็ขึ้นมาแล้ว หากรัฐบาลทำให้ดี ผมคงจะวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ แต่ทำบ้านเมืองเสียหาย ทำให้ประชาชนทุกข์ยาก ยังเอาเงินไปซื้อรถถัง กำลังซื้อภาคประชาชนตก เศรษฐกิจกำลังจะหายนะ อย่ามาสร้างประเด็น เอาเวลาไปทำอย่างอื่น การที่นักลงทุนปฏิเสธการลงทุน ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายมาก อะไรที่เห็นว่าเป็นธรรมก็ทำไป อะไรเป็นเรื่องคดีก็พร้อมสู้คดี ไม่ขอใช้อภิสิทธิ์ เรื่องคดีกับเรื่องวิพากษ์วิจารณ์เป็นคนละเรื่องกัน”นายวัฒนากล่าว

นายวัฒนากล่าวอีกว่า ความปรองดองยังไกลเกินไป บรรยากาศบ้านเมืองเวลานี้ไม่ใช่ การปรองดองถูกกดโดยผู้มีอำนาจ เวลานี้ยังห้ามคนคุยกัน ทั้งที่จริงๆควรผ่อนคลายบรรยากาศให้คนคุยกันบ้าง เพราะเมื่อคุยแล้วจะทำให้เกิดปัญญา เรามีรัฐธรรมนูญผ่านประชามติแล้ว แต่ประชาชนยังไม่มีสิทธิเสรีภาพ มันแปลกไหม มีคำสั่ง มีประกาศคสช.ที่ประกาศก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้อยู่มาก ซึ่งมันขัดกับรัฐธรรมนูญ รัฐบาลควรไปดูสิ่งใดที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ เวลานี้ยังมีคนใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญหรือไม่