บิ๊กตู่ย้ำยังไม่อนุญาตทำกิจกรรมการเมือง หวั่นทำให้เกิดความวุ่นวาย

"ประยุทธ์"บอก คนให้ความสำคัญ 4 คำถามเกินไป ยันรับฟังทุกคน ยันไม่อนุญาต "สโมสร ส.ส."พบปะสังสรรค์ คุยการเมือง หวั่นกระทบการทำงาน

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการเปิดให้ประชาชนตอบ 4 คำถามของนายกรัฐมนตรี ว่า ทุกคนให้ความสำคัญกับ 4 คำถามของตนมากไปหรือเปล่า ตนไม่ได้บอกว่าประชาชนจะต้องมาไลค์ทั้ง 6 ล้านคน มันไม่ใช่ จะกี่ล้านตนไม่รู้ จะคนเดียวหรือ 10 คน ตนก็รับฟัง มี 100 คนก็รับฟัง 100 คนว่า เขาว่าอย่างไร แต่ตนได้ถามคำถามว่าจะเลือกตั้งเร็วหรือไม่เร็ว ไม่ได้ถามแบบนั้น เลือกตั้งก็เป็นไปตามกระบวนการอยู่แล้ว ขั้นตอนกฎหมายมีอยู่ แล้วจะไปถามทำไม จะให้เลือกตั้งเร็วกกว่าเดิมอะไรนั้น ตนไม่ได้สนใจ

"อย่าไปเป็นเครื่องมือของใครเขานั่นแหละสำคัญ วันนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องการทำโพลกดไลค์ เห็นหรือไม่ที่มีการจับชาวต่างชาติที่ไปตั้งกันอยู่จังหวัดสระแก้ว เพื่อรับจ้างกดไลค์ ปัดโธ่ฉะนั้นคุณไม่ต้องมาไลค์ให้ผม เพราะผมไม่เชื่อหรอก ในวันนี้เงินจ้างได้หมด เทคโนโลยีไปไกล ถ้าไปให้ความสำคัญในการสร้างความรับรู้ทางโซเชียลอย่างเดียวคงไม่ได้ มันต้องสร้างอย่างที่ผมพยายามจะพูด ซึ่งอาจจะไม่มีใครเขาพูดกัน อาจจะเข้าใจบ้างหรือไม่เข้าใจบ้าง ฟังไม่ครบหรือพูดไม่จบ"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีกลุ่มสโมสร ส.ส. กว่า 50 คน ไม่พอใจที่ถูกสั่งยกเลิกการพบปะสังสรรค์ว่า ส่วนตัวไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่เพิ่งมารู้ข้อมูลจากสื่อมวลชน ทั้งหมดเป็นเรื่องของความเหมาะสม การจะรับประทานอาหารร่วมกัน ต้องดูว่าเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองหรือไม่ โดย คสช. จะพิจารณา ซึ่งข้อมูลต่างๆบางครั้งจะได้รับแจ้งจากประชาชน จึงจำเป็นจะต้องตรวจสอบ ยืนยันว่าตนยังไม่อนุญาตให้ดำเนินการในลักษณะนี้ หมายถึงการพบปะกันเป็นคณะใหญ่ เพราะจะไม่พ้นการหารือกันในประเด็นการเมือง วันนี้จึงขอร้องกันไว้ก่อน ขออย่าเพิ่งเลย  อย่าทำให้เกิดความวุ่นวาย สับสนอลหม่าน และจะมีผลกระทบต่อการทำงานของตนในเวลานี้

ส่วนกรณีที่ทหารค้นบ้านพักนักการเมืองหลายคน แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้ถูกมองว่า คสช.กำลังเล่นเกมการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้มีการทำความเข้าใจกับหน่วยงานในพื้นที่แล้ว เพราะเจ้าหน้าที่มีข่าวสารและข้อมูลในบางส่วน โดยอาจจะเป็นคนใกล้ชิดหรือลูกน้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด แต่ไม่ได้พาดพิงถึงเจ้าตัว เป็นเพียงเรื่องของลูกน้อง

อย่างไรก็ตาม ต้องขอโทษด้วยหากทำให้เสียชื่อและเกียรติยศ เมื่อไม่พบว่ากระทำความผิด ก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยืนยันว่าไม่ได้เล่นเกมการเมืองใดๆทั้งสิ้น เพราะบ้านเมืองจะมาเล่นเกมการเมืองคงไม่ใช่ ตนไม่มีเกมการเมือง