posttoday

พล.อ.ประยุทธ์ขอประชาชนอย่าเชื่อวาทกรรมที่บิดเบือน

12 พฤษภาคม 2560

นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อพวกสร้างวาทกรรมบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไร ขณะนี้กำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ

นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อพวกสร้างวาทกรรมบิดเบือนว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไร ขณะนี้กำลังเดินหน้าปฏิรูปประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ

เมื่อวันที่12พ.ค.60 เวลา 20.15น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน"ว่า อย่าไปหลงเชื่อในวาทกรรม การบิด เบือน และการสร้างความเข้าใจที่ผิดๆ อีกต่อไป ไม่ว่าจะมาจากแหล่งใดก็ตาม หวังดีหรือไม่หวังดี  หรืออาจจะมีผู้ที่หวังผลให้บ้านเมืองไม่สงบสุข เรากำลังเดินหน้าปฏิรูปตามยุทธศาสตร์ชาติแผนปฏิรูปเราก็คงต้องดำเนินการต่อไปให้อย่างต่อเนื่อง ที่ทุกรัฐบาลก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ไปตามสถานการณ์ตามกฏเกณฑ์ซึ่งเราได้ร่างเอาไว้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ บ้านเมืองปลอดภัย สงบสุข  ปัญหาเรายังมีอีกมากถ้าเราจะมัวทะเลาะเบาะแว้งกันไปทำไม การเป็นประชาธิปไตยและการเมือง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญ  ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความมั่นคง

หากเราเอาสิ่งเหล่านี้มาพิจารณาร่วมกันว่าประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ  กฏหมายลูก กระบวนการยุติธรรมการเมือง  สิทธิเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน หน้าที่ การมีส่วนร่วม  การเคารพกฎหมาย ความร่วมมือในทุกมิติแบบประชารัฐ การป้องกันปราบปรามการทุจริต  การแก้ปัญหาจราจร การแก้ปัญหาสังคม  การบริหารจัดการน้ำ เกษตรครบวงจร เศรษฐกิจที่เติบโตไปด้วยกันทั้งใหญ่ กลาง เล็ก การแก้ปัญหาแรงงาน  การจัดที่ดิน การบุกรุกป่า การทำลายทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงสาธารณสุข การปรับปรุงปฏิรูปการศึกษา การเตรียมรับสังคมสูงวัย การดูแลผู้มีรายได้น้อยในทุกมิติ การแก้ปัญหาภาคใต้ ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เหล่านี้เราจะร่วมกันแก้ไขปัญหาได้อย่างไร ไปพร้อมๆ เพื่ออจะให้ประเทศของเรา คนไทยของเราสามารถสร้างความสมดุลย์ ในเรื่องของการพัฒนาที่รักษาสมดุลย์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วันนี้หากทุกคนแยกกลุ่มกันคิด พูดและทำโดยสนใจแต่เรื่องของตน  ซึ่งมีผลกระทบกับด้านอื่นๆ อีกมากมาย เรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ไม่ร่วมกันรับผิดชอบโดยเฉพาะการที่จะทำให้มีรายได้สูงขึ้นแต่ไม่ปรับเปลี่ยนแนวคิด ไม่สร้างความร่วมมือ อาจจะไม่มีหลักคิดที่ถูกต้อง

"ไม่ได้บังคับให้ใครคิดเหมือนนะครับ คิดต่างได้แต่มันต้องมีวิธีการที่ทำร่วมกันให้ได้ว่าทำยังไงมันจะเกิดผลสำฤทธิ์แก้ปัญหาที่ เราได้เผชิญหน้ากันมาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วนี่นะครับ หากเราไม่เข้าใจว่าเราจะต้องช่วยกันทำอะไรในส่วนของตน และต้องดูแลคนอื่นไปด้วย  กิจกรรมอื่นไปด้วย เราขาดความรักความสามัคคี แบ่งฝ่ายแบ่งพวก ใช้กฏหมายใช้รัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือแก้ไขความ ผิดของตนหรือเพื่อผลประโยชน์ของตนในวันนี้และวันหน้าจนทำให้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ตรงกับจุดมุ่งหมาย ของการออกกฎหมาย"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

วัตถุประสงค์ของกฎหมายแต่ละฉบับ ก็ล้วนแต่มุ่งจะทำให้สังคมสงบสุข ไม่วุ่นวาย มีความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ แต่ก็มีหลายคนพยายามนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเอง อาจจะมีการคัดค้านไปทุกเรื่อง ก็สังเกตเอาแล้วกันเพราะมีอยู่ไม่กี่คน แล้วทุกอย่างมันจะเกิดการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไรถ้าเอาแต่คัดค้านกัน ไม่ร่วมมือ บางครั้งก็ไม่เข้าใจไม่มีข้อมูล เขาทำงานกันมาแทบตายนะครับ  หลายๆอย่างก็มีการวิเคราะห์  มีการวิจัย เอาผลการวิจัยมา  มีการประชุมร่วมไม่รู้กี่สิบครั้ง แล้วก็เอาตอนท้ายมาวิพากษ์วิจารณ์ แล้วก็ไปคิดเอาเองผมว่ามันไม่ถูก มันต้องร่วมมือกันทำงาน

ไม่ว่าจะกลุ่มการเมือง กลุ่มระชาธิปไตย กลุ่มสิทธิมนุษยชน หรือกลุ่มอื่นๆ อยากให้ทุกคนนั้นได้คำนึงถึงผลประโยชน์ร่วมกันของคนไทย ของประเทศชาติ และ ชื่อเสียงของเรา ประเทศของเราในประชาคมโลกอีกด้วย หลายท่านอาจจะหลงลืมไปในเรื่องเหล่านี้เราขัดแย้งกันเองในประเทศในสื่อบ้าง ในโซเชียลมีเดียบ้าง มันไปต่างประเทศทั้งหมด แล้วสิ่งเหล่านี้มันจะทำให้ประเทศของเราถูกมองเป็นอย่างไร

ในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารัฐบาล ก็เพียงแต่อยากจะพูดเตือนให้สังคม ให้ประชาชน ช่วยกันเรียนรู้ ช่วยกันเฝ้าระวัง แล้วก็ทำความเข้าใจให้ดีที่สุดครับนะครับ นึกถึงสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ต้องนึกถึงอยู่เสมอ ก็คือการทำอะไรก็ตาม ก็ต้องมุ่งสู่ผลประโยชน์ของชาติ ของประชาชนคนไทยเป็นหลัก ประเทศชาติต้องมีความสงบสุข มั่นคง ประชาชนปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีเศรษฐกิจที่ดี  เพียงพอในทุกระดับ มันจึงจะเกิดขึ้นได้นะครับ ในโลกแห่งความเป็นจริง.