posttoday

สุริยะใสแนะแยกอำนาจบริหารพรรคจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

07 พฤษภาคม 2560

"สุริยะใส" แนะ กมธ.ร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองแยกอำนาจบริหารพรรคออกจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อพัฒนาเป็นสถาบัน

"สุริยะใส" แนะ กมธ.ร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองแยกอำนาจบริหารพรรคออกจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อพัฒนาเป็นสถาบัน

นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัย รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าเป้าหมายของร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่กรรมาธิการวิสามัญสนช.กำลังพิจารณากันอยู่ในขณะนี้ ยังเป็นประเด็นยิบย่อยและมุ่งแก้ปัญหาปลายเหตุเกินไป แม้จะตั้งโจทย์ได้ถูกทางแต่กลไกและบทบัญญัติยังไม่ตอบโจทย์และอาจจะสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมา

"ประเด็นหนึ่งที่ไม่ค่อยมีคนพูดกันเลยคือการแยกอำนาจบริหารพรรคออกจากผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของพรรค ซึ่งที่ผ่านมา พบว่าแทบทุกพรรคกลุ่มคนบริหารพรรคกับกลุ่มการเมืองในพรรคเป็นคนเดียวกันกลุ่มเดียวกัน ทำให้อนาคตของพรรคขึ้นอยู่กับชัยชนะทางการเมืองในการเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่แปลกที่หลังเลือกตั้งบางพรรคแพ้ก็ยุบพรรคหรือย้ายพรรค หรือควบรวมพรรคเพื่อแลกกับการเข้าร่วม ครม. ก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำ

"หรือแม้แต่พรรคใหญ่ๆที่กรรมการบริหารพรรคกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองสส.หรือรัฐมนตรีของพรรคเป็นคนเดียวกันทำให้ไม่มีเวลาบริหารพรรคอย่างจริงจัง แค่บริหารงานในฐานรัฐมนตรีก็หมดเวลาแล้วทำให้พรรคขาดโอกาสที่จะมีผู้บริหารมืออาชีพ มองไกล เอาใจใส่และพัฒนาพรรคให้เป็นสถาบัน"นายสุริยะใสกล่าว

นายสุริยะใสกล่าวอีกว่า ยิ่งกลไกในร่าง พ.รป.พรรคการเมืองฉบับนี้ มีรายละเอียดมากกว่าเดิมกรรมการบริหารต้องรับผิดชอบต่อสมาชิกพรรคและสาขาพรรคมากขึ้น ยิ่งมีความจำเป็นที่ต้องแยกอำนาจบริหารพรรคเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง หรือใครดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ต้องพ้นสภาพจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคในทันทีก็สมารถทำได้

"ถ้าแยกอำนาจการบริการพรรคและฝ่ายการเมืองออกจากกันชัดเจนแบบนี้พรรคการเมืองจะมีความเป็นมืออาชีพเป็นสถาบันได้มากขึ้นไม่ใช่เป็นแค่กลุ่มผลประโยชน์ที่ทำงานการเมืองกันแค่ช่วงเลือกตั้งเท่านั้น"นายสุริยะใสกล่าว