สนช.ทยอยแก้กม.พรรคการเมือง

สนช.ทยอยแก้กฎหมายพรรคการเมือง คลายกฎเหล็กยุบพรรค เปิดทางสมาชิกรับเงินต่างชาติได้แต่ห้ามใช้การเมือง

นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ โฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีสมาชิกสนช.ทยอยนำเสนอคำแปรญัตติแก้ไขเนื้อหาของร่างกฎหมายดังกล่าว อาทิ นายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล สมาชิกสนช.เสนอว่าควรปรับแก้เงินทุนประเดิมในการจัดตั้งพรรคการเมืองจาก 1 ล้านบาท มาเป็น 5 แสนบาท ขณะที่ นายพรศักดิ์ เจียรณัย สมาชิกสนช.ขอให้แก้ไขเกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าบำรุงพรรคการเมือง จากเดิมไม่น้อยกว่าปีละ 100 บาท มาเป็นให้พรรคการเมืองเป็นผู้กำหนดแต่ให้เก็บเงินได้ไม่เกิน 100 บาทต่อปี

นายวัลลภ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกมธ.วิสามัญฯได้แก้ไขในเรื่องการจัดทำข้อบังคับพรรคการเมือง โดยกำหนดให้พรรคการเมืองมีเวลาแก้ไขข้อบังคับพรรคการเมืองตามความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้เสร็จภายใน 60 วัน และให้สามารถขยายเวลาได้อีก 30 วัน ส่วนเรื่องการยุบพรรคการเมืองนั้นที่ประชุมคณะกมธ.วิสามัญฯ เห็นว่าควรมีการปรับปรุงเกี่ยวกับเงื่อนไขแห่งการยุบพรรคการเมืองบางประการ คือ ในร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เสนอมานั้นวางหลักการว่าหากคณะกรรมการการบริหารพรรคการเมืองละเลยปล่อยให้สมาชิกพรรคการเมืองไปกระทำผิดกฎหมาย อาจเป็นความผิดถึงยุบพรรคการเมือง ดังนั้น ที่ประชุมคณะกมธ.วิสามัญฯมีความเห็นว่าการกำหนดคำว่ากฎหมายไว้เช่นนั้น จะทำให้มีลักษณะกินความกว้างไปถึงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ ประมวลกฎหมายอาญา  ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จึงควรแก้ไขให้จำกัดเฉพาะการทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งเท่านั้น

นายวัลลภ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกมธ.วิสามัญฯ เห็นควรให้คงเนื้อหาในมาตรา 68 ของร่างกฎหมายดังกล่าวไว้ตามเดิม โดยมาตรา 68 มีหลักการเกี่ยวกับการห้ามไม่ให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกรับบริจาค ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจาก บุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทย หรือ นิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศ ซึ่งมาตรา 68 บัญญัติห้ามเด็ดขาดเฉพาะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเท่านั้น แต่สำหรับสมาชิกพรรคการเมืองยังคงสามารถรับบริจาคได้ เพียงแต่ต้องไม่นำไปใช้ในกิจกรรมทางการเมือง เพื่อป้องกันการหาเสียงทางอ้อม