posttoday

นายกฯเผยเศรษฐกิจไทยดีขึ้นต่อเนื่องคาดโตร้อยละ3.5

28 เมษายน 2560

นายกฯเผยเศรษฐกิจไทยดีขึ้นคาดว่าขยายตัวถึงร้อยละ3.5ส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศขออย่าลงเชื่อฝ่ายโจมตีรัฐบาลทำลายบรรยากาศการค้าการลงทุน

นายกฯเผยเศรษฐกิจไทยดีขึ้นคาดว่าขยายตัวถึงร้อยละ3.5ส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศขออย่าลงเชื่อฝ่ายโจมตีรัฐบาลทำลายบรรยากาศการค้าการลงทุน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า วันนี้ เราพูดได้ว่าเศรษฐกิจไทยดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถ้าพี่น้องประชาชนลองมองย้อนกลับไป ปี 2557 เศรษฐกิจไทยเติบโตได้เพียงร้อยละ 0.8 และปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นร้อยละ 2.8 ในปี 2558 และ 3.2 ในปี 2559 ที่ผ่านมา ในปีนี้ หากโครงการต่างๆ คืบหน้าไปตามแผนที่วางไว้เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้เพิ่มขึ้นอีก ที่ประมาณร้อยละ3.5 ซึ่งก็ถือเป็นการค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น จากปัญหาความไม่แน่นอนต่างๆ ของประเทศและภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมาอย่างชัดเจนแม้จะยังไม่ได้กลับมาขยายตัวสูงเท่ากับในอดีต แต่ก็สะท้อนว่าเรายังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ และยังน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องในวันข้างหน้า หากเราค่อยๆ ช่วยกันฟิตร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

สำหรับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดีเราได้เห็นการส่งออกที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง และเริ่มขยายตัวมากขึ้นในหลายหมวดสินค้า โดยมีมูลค่าสูงกว่า 7 แสนล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 10 สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ รายได้เกษตรกร ในเดือนมีนาคมปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 จากทั้งผลผลิตและราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ครัวเรือนและความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องด้วย ทั้งหมดนี้ ส่งผลดีต่อการบริโภคภายในประเทศ โดยเฉพาะการตัดสินใจซื้อสินค้าคงทน มีราคาสูง เช่น รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ซบเซามาเป็นเวลานาน สำหรับการค้าขายของภาคธุรกิจ มีการขอจดทะเบียนธุรกิจเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ร้อยละ 10 ซึ่งก็สะท้อนว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เอกชนก็มีความเชื่อมั่นมากขึ้น

ทั้งนี้ หากเราต้องการที่จะกลับไปโตได้ในอัตราสูงๆ แบบเดิม เราจะต้องเร่งให้เกิดการปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลนี้ได้เริ่มขับเคลื่อนไปบ้างแล้วแต่ต้องเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างหนึ่งก็คือการเร่งให้เกิด EEC ที่จะช่วยวางรากฐานอนาคตของการผลิต การค้า และยกระดับพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ เรื่องเหล่านี้ ต้องใช้เวลานานพอสมควรจึงจะเห็นผล ซึ่งความร่วมมือร่วมใจจากทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชน จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการปฏิรูปขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วย

อย่างไรก็ตามภายใต้ความพยายามเหล่านี้ ที่ผ่านมา ก็อาจจะมีหลายพวกหลายฝ่ายพยายามจะโจมตีรัฐบาล ที่บอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้นต่อเนื่อง คนในระดับฐานรากยังไม่ได้รับผลโดยตรง ไม่ถึงพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงบ้าง เอื้อประโยชน์กลุ่มทุนรายใหญ่บ้าง ซึ่งก็ล้วนเป็นการสร้างความขัดแย้งทำลายบรรยากาศการค้าการลงทุนในประเทศที่กำลังค่อยๆ ไปได้ดี ที่รัฐบาลและเอกชนหลายฝ่ายกำลังพยายามสร้างอยู่ ก็ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า รัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ดี รับทราบ กำลังดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่องแล้วก็จะเร่งรัดดำเนินการภายในปีนี้ให้ได้ต่อไป