posttoday

นายกฯปลื้มไทยถูกจัดอันดับทุกข์อยากต่ำสุดในโลก

10 มีนาคม 2560

นายกฯ ปลื้มไทยถูกจัดอันดับมีความทุกข์ยากต่ำที่สุดในโลกต่างชาติมองประเทศพัฒนาดีขึ้นหลายด้าน ชื่นชมทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความสุข

นายกฯ ปลื้มไทยถูกจัดอันดับมีความทุกข์ยากต่ำที่สุดในโลกต่างชาติมองประเทศพัฒนาดีขึ้นหลายด้าน ชื่นชมทุกฝ่ายร่วมกันสร้างความสุข 

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.60 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ว่า หลายๆ คนคงได้รับทราบข่าวดี ที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้เผยแพร่ผลการจัดอันดับ ตามดัชนีความทุกข์ยาก ประจำปี 2560 ว่า ประเทศไทยมีระดับความทุกข์ยาก "ต่ำที่สุด" ในโลก หรือมีความสุขที่สุดในโลก ตนต้องขอชื่นชมทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายประชารัฐ ที่ร่วมกันสร้างความสุข โดยสายตาต่างประเทศเห็นว่าประเทศไทยมีการพัฒนาที่ดีขึ้นในหลายด้าน ทั้งการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี มีธรรมาภิบาล มุ่งมั่นขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน รวมทั้งการแก้ไขปัญหาใหญ่ๆ ในทุกมิติ โดยหลายคนออกมาบิดเบือนว่า เศรษฐกิจไม่เห็นจะดีขึ้น ประชาชนไม่มีความสุข ก็เป็นสิ่งที่คิดได้ ซึ่งต้องช่วยกันพิจารณาคนที่ออกมาพูดด้วย

"สิ่งที่ผมเห็นความสุขที่ยั่งยืน คือ ความพออยู่ พอกิน และมีชีวิตที่สงบสันติ ส่วนการไม่รู้จักพอ คือ การปล่อยตัว ปล่อยใจ นำไปสู่การแสวงหาที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะอยากมี อยากได้อยู่ตลอดเวลา แม้จะมั่งมีศรีสุขร่ำรวยทรัพย์สินกว่าคนอื่นๆ แต่ยังไม่หยุดทุจริต ไม่หยุดเอารัดเอาเปรียบ ไม่รู้จักให้แบ่งปัน ทำให้ไม่รู้จักความสุขถาวร หลงอยู่กับความสุขแบบชั่วครู่ ชั่วยาม ไม่จีรัง ตรงข้ามกับ "หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงสอนให้คนไทยรู้จักพอประมาณ เดินทางสายกลาง ไม่ประมาท มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันตัวเอง ไม่ยอมแพ้ต่อกระแสทุนนิยม วัตถุนิยม บริโภคนิยม จนหาความสุขที่แท้จริงในชีวิตไม่ได้ เช่น การมีบัตรเครดิตมากเกินความจำเป็น หรือแม้แต่การขายสิทธิ์ ขายเสียง เพียงมุ่งหวังเงินทองเล็กน้อย แต่ไม่มองอนาคตของตนเอง ลูกหลาน และผลได้ผลเสียของประเทศในระยะยาว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการใช้ "ความรู้คู่คุณธรรม" ช่วยยกระดับจิตใจของประชาชน ผู้ที่อยากเข้าสู่การเป็นรัฐบาล จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง ลองคิดใหม่ อย่าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม โดยประชาชนเป็นผู้พิจารณา และขอฝากท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสร้างการรับรู้ อย่ายึดติดกับที่เดิมอีก.

"สิ่งที่ผมเห็นความสุขที่ยั่งยืน คือ ความพออยู่ พอกิน และมีชีวิตที่สงบสันติ ส่วนการไม่รู้จักพอ คือ การปล่อยตัว ปล่อยใจ นำไปสู่การแสวงหาที่ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะอยากมี อยากได้อยู่ตลอดเวลา แม้จะมั่งมีศรีสุขร่ำรวยทรัพย์สินกว่าคนอื่นๆ แต่ยังไม่หยุดทุจริต ไม่หยุดเอารัดเอาเปรียบ ไม่รู้จักให้แบ่งปัน ทำให้ไม่รู้จักความสุขถาวร หลงอยู่กับความสุขแบบชั่วครู่ ชั่วยาม ไม่จีรัง ตรงข้ามกับ "หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง" ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงสอนให้คนไทยรู้จักพอประมาณ เดินทางสายกลาง ไม่ประมาท มีเหตุผล และมีภูมิคุ้มกันตัวเอง ไม่ยอมแพ้ต่อกระแสทุนนิยม วัตถุนิยม บริโภคนิยม จนหาความสุขที่แท้จริงในชีวิตไม่ได้ เช่น การมีบัตรเครดิตมากเกินความจำเป็น หรือแม้แต่การขายสิทธิ์ ขายเสียง เพียงมุ่งหวังเงินทองเล็กน้อย แต่ไม่มองอนาคตของตนเอง ลูกหลาน และผลได้ผลเสียของประเทศในระยะยาว" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการใช้ "ความรู้คู่คุณธรรม" ช่วยยกระดับจิตใจของประชาชน ผู้ที่อยากเข้าสู่การเป็นรัฐบาล จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนตัวเองบ้าง ลองคิดใหม่ อย่าคิดแบบเดิม ทำแบบเดิม โดยประชาชนเป็นผู้พิจารณา และขอฝากท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันสร้างการรับรู้ อย่ายึดติดกับที่เดิมอีก.