นายกฯห่วงคนไทยทำร้ายกันเองวอนอย่าสร้างความขัดแย้ง
โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงคนไทยทำร้ายกันเอง วิงวอนทุกฝ่ายอย่าสร้างความขัดแย้งเวลานี้ ขอให้เก็บความรู้สึกไว้ในใจ หวั่นกระทบภาพลักษณ์ต่างประเทศ ยันข่าวลือ 10 จุดเสี่ยงไม่ใช่เรื่องจริง
โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ห่วงคนไทยทำร้ายกันเอง วิงวอนทุกฝ่ายอย่าสร้างความขัดแย้งเวลานี้ ขอให้เก็บความรู้สึกไว้ในใจ หวั่นกระทบภาพลักษณ์ต่างประเทศ ยันข่าวลือ 10 จุดเสี่ยงไม่ใช่เรื่องจริง
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเผยแพร่คลิปวิดิโอการทำร้ายร่างกายระหว่างคนไทยด้วยกันเองในโซเซียลมีเดีย ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงการรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งการแสดงกริยาในลักษณะดังกล่าวถือเป็นการทำร้ายหัวใจคนไทย และอาจทำให้คนที่เห็นภาพเหล่านั้นไม่พึงพอใจ ซึ่งนอกจากเป็นกริยาที่ไม่งดงามแล้ว การรุมทำร้ายถือเป็นการแสดงภาพลักษณ์ที่ไม่งดงามต่อต่างประเทศอีกด้วย โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รู้สึกไม่สบายใจ และเป็นห่วง อยากให้คนไทยตระหนักในเรื่องนี้ให้มาก
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ฝากให้ประชาชนคนไทยเก็บความรู้สึกไว้ในใจ อย่าแสดงความรู้สึกออกมา เพราะสิ่งที่ได้รับคือการทำให้คนอื่นไม่พอใจ ตามมาด้วยการทำร้ายจิตใจ และเกิดการบาดเจ็บ พร้อมขอเตือนคนที่คิดต่างให้คิดไว้ในใจไม่ต้องแสดงออกมา หากพบเหตุการณ์การทำร้ายร่างกายในลักษณะเช่นนี้ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานความมั่นคง ดำเนินการตามกฎหมาย เพราะเราเป็นประเทศที่มีอารยะ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ไม่อยากให้เห็นภาพที่เป็นสิ่งบ่งบอกว่ามีคนคิดแบบนี้ และต่างชาติจะมองว่าไม่ดี พร้อมขออย่าให้ประชาชนแชร์หรือส่งต่อ เพราะเป็นการแพร่กระจายในสิ่งที่ไม่ดีงาม และขอวิงวอนทุกฝ่ายอย่าสร้างความขัดแย้งเวลานี้ อย่าดึงพระองค์ท่านเข้ามาในความขัดแย้ง เพราะเวลานี้ต้องรวมให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และต้องสร้างศรัทธาของประชาชนเพื่อให้เกิดการเดินหน้าให้ได้
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวถึงกรณีมีการแชร์ข้อมูลให้ระวังพื้นที่อันตราย 10 จุด ว่า รัฐบาลได้ตั้งศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เพื่อรับผิดชอบในทุกเรื่อง ซึ่งการแชร์ข้อมูลแบบนี้เป็นการแชร์ในช่วงที่อ่อนไหว โดยยืนยันว่าข้อมูลดังกบ่าวไม่ใช่ความจริง หากยิ่งแชร์จะยิ่งทำให้เกิดความตื่นตระหนก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำงานในทุกจุด ดังนั้นเชื่อว่าเป็นจุดประสงค์ของผู้ไม่หวังที่ที่ต้องการสร้างผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ จึงขอให้ฟังข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก และที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อให้ประเทศเดินหน้า