posttoday

ปปช.ฟันอาญาเด็กเพื่อไทยเสียบบัตรแทน-สับเปลี่ยนร่างรธน.

08 กันยายน 2559

ปปช.ชี้มูลความผิดอดีตสส.เพื่อไทยปมแก้รัฐธรรมนูญที่มาสว. "อุดมเดช-นริศร-ขุนค้อน" ผิดฐานเสียบัตรแทนและส่งร่างรธน.ปลอม

ปปช.ชี้มูลความผิดอดีตสส.เพื่อไทยปมแก้รัฐธรรมนูญที่มาสว. "อุดมเดช-นริศร-ขุนค้อน" ผิดฐานเสียบัตรแทนและส่งร่างรธน.ปลอม

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้พิจารณากรณีกล่าวผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่กรณีเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญพ.ศ.2550 เกี่ยวกับที่มาสว.โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้

1.การกระทำของนายนริศร ทองธิราช อดีตสส.พรรคเพื่อไทย กรณีใช้บัตรลงคะแนนแทนบุคคลอื่นมีมูลความผิดทางอาญาฐานปฏิบัติหรือระเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตนมิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่นและฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามมาตรา 123 และมาตรา 123/1 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และมีมูลส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 68 วรรค 1 มาตรา 122 มาตรา 123 และมาตรา 126 วรรค 3

จึงเห็นควรส่งรายงานพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้องส่งรายงานและความเห็นไปยังประธานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ สนช. มีมติถอดถอน นายนริศร ออกจากตำแหน่งตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2557 ต่อไป

2.การกระทำของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีรู้เห็นให้มีการสลับสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่มีการตรวจสอบให้ถูกต้องตามหน้าที่ของรัฐสภาและไม่ให้มีการนำไปเสนอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมลงชื่อรับรองญัตติและกรณีจงใจนับระยะเวลาแปรญัตติย้อนหลังทำให้เหลือระยะเวลาให้สมาชิกรัฐสภาเสนอคำแปรญัตติเพียง 1 วัน มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามมาตรา 123 และมาตรา 123/1 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

จึงเห็นควรให้ส่งรายงานและความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป

3.การกระทำของนายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตสส.พรรคเพื่อไทย กรณีสลับสับเปลี่ยนร่างรัฐธรรมนูญเกี่ยวกันที่มาของ สว. ที่เสนอต่อประธานรัฐสภาเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2556 โดยไม่มีสมาชิกรัฐสภาลงลายมือชื่อรับรอง มีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามมาตรา 123/1 แห่งพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542

เห็นควรให้ส่งรายงานและความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป พร้องส่งรายงานและความเห็นไปยังประธานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อให้ สนช. มีมติถอดถอน นายอุดมเดช ออกจากตำแหน่งตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2557

ส่วนการกระทำของนายคมเดช ไชยศิวามงคล และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร อดีตสส.พรรคเพื่อไทย ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลังฐานเพียงพอว่ามีพฤติการณ์ในการฝากบัตรแสดงตนและลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ไว้กันนายนริศร เพื่อให้ออกเสียงลงคะแนนแทนตนเองหรือผู้อื่นและมิได้เป็นผู้ใช้หรือเป็นตัวการร่วมกันนายนริศรในการแสดงตนและลงคะแนนแทนสมาชิกรัฐสภารายอื่น นายคมเดช และนายยุทธพงศ์ จึงไม่มีความผิดเห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไป