posttoday

"วิษณุ"แย้มอาจดึง “ปกรณ์” นั่งเลขาฯครม.

31 สิงหาคม 2559

“วิษณุ” แจงดึง “ปกรณ์” นั่งรองเลขาฯครม. เหมือนลองงาน ถ้าเวิร์คดันขึ้นแทน “อำพน” ไม่ทราบเปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากลาโหมรองรับใคร

“วิษณุ” แจงดึง “ปกรณ์” นั่งรองเลขาฯครม. เหมือนลองงาน ถ้าเวิร์คดันขึ้นแทน “อำพน” ไม่ทราบเปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากลาโหมรองรับใคร

เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 31 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งนายปกรณ์ นิลประพันธ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้เป็นรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกตำแหน่งว่า เนื่องจากนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. แต่ยังไม่เห็นผู้ที่เหมาะสมที่จะมารับช่วงต่อในเร็ววันนี้ ถึงแม้ว่าจะมีบางคนสามารถถ่ายโอนมาจากตำแหน่งอื่นได้ โดยคนที่เล็งเอาไว้คือ นายปกรณ์ เพราะช่วงเวลา 1 ปีจากนี้ไปมีเรื่องที่ต้องดำเนินการตามรัฐธรรมนูญจำนวนมาก และงานพิเศษที่จะต้องเกิดขึ้น อย่างเรื่องการติดตามเร่งรัดการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญที่ต้องมีการออกกฎหมายประมาณ 80 ฉบับ รวมทั้งการดำเนินอย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับกฎหมายอีก 50 เรื่อง จึงต้องมีคนมาขับเคลื่อนในส่วนนี้ ดังนั้น การที่นายปกรณ์มาช่วยดูตั้งแต่ต้นทางจะเป็นประโยชน์กว่า

“เล็งว่านายปกรณ์น่าจะทำสักระยะหนึ่งก็ต้องส่งเขากลับไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะยังมีอนาคต แต่ทีนี้การที่นำนายปกรณ์เข้ามารักษาการรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่งเพื่อจะได้ฝึกหัดงานเอกสาร และงานอื่นๆ ไปสักระยะ ถ้าเหมาะสม เป็นที่พอใจแก่ผู้บังคับบัญชาการ อาจจะตั้งเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเลยก็ได้ แต่ถ้าเขาไม่สะดวกหรือไม่ถนัดเพราะยังเป็นเลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อยู่ด้วย ซึ่งมีหน้าที่ทำกฎหมายลูก อาจปลีกตัวยาก จะต้องคิดอีกแบบหนึ่ง ขณะที่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้จะต้องให้นายอำพน ช่วยเป็นพี่เลี้ยงกำกับดูแลสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งไม่ได้เป็นการต่ออายุราชการ แต่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิโดยประสงค์ที่จะไม่รับค่าตอบแทน เพียงแค่ให้มีห้องไว้ทำงาน เนื่องจากยังต้องดูแลอะไรบางอย่างอีกสักระยะ กระทั่งมีเลขาธิการคณะรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามารับช่วง ตอนนั้นค่อยคิดกันใหม่”นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีครม.มีมติรับโอนรับโอนนางเมธินี เทพมณี ผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้มาเป็นเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ว่า เนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ถือเป็นมือไอทีคนหนึ่ง ดังนั้น เมื่อรัฐบาลตั้งใจจะขับเคลื่อนระบบราชการโดยใช้ระบบไอทีเพื่อปรับปรุงเรื่องการบริหารงานบุคคลให้ควบคู่กับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร) เพื่อให้เชื่อมกับกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยนายกฯได้ให้การบ้าน 4 – 5 ข้อที่ต้องทำโดยใช้ระบบไอทีเข้ามารองรับ นางเมธินีน่าจะช่วยเข้าไปวางระบบส่วนนั้น หวังว่านางเมธินีจะไปขับเคลื่อนงานส่วนนี้ได้ 
 
เมื่อถามถึงกรณีครม.มีมติเปิดตำแหน่งประธานที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม (อัตราจอมพล) รองนายกฯ กล่าวว่า ตำแหน่งดังกล่าวมีอยู่แล้ว แต่เป็นตำแหน่งเฉพาะตัว มีการตั้งมาแล้วหลายปี แต่ครม.มีเงื่อนไขต้องมาต่ออายุทุก 1 ปี เพื่อจะได้ดูความจำเป็น ซึ่งกรณีนี้ครบ 1 ปีมีการขอต่ออีก 1 ปี ด้วยความจำเป็นในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ปีหน้ามีรัฐบาลใหม่ค่อยไปว่ากันอีก เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่าเป็นการเปิดขึ้นมาเพื่อรองรับโผทหาร รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้ดูในเรื่องนี้ ต้องไปถามกระทรวงกลาโหม