posttoday

นายกฯถกคตช.สั่งเร่งปราบทุจริตให้เป็นรูปธรรม

29 มิถุนายน 2559

นายกฯ นั่ง หัวโต๊ะประชุมคตช. ติดตามงาน พร้อม เร่งแก้ปัญหา ปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่นให้เป็นรูปธรรม ต้องแก้ปัญหาทันทีหลังรับเรื่องร้องเรียน

นายกฯ นั่ง หัวโต๊ะประชุมคตช. ติดตามงาน พร้อม เร่งแก้ปัญหา ปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่นให้เป็นรูปธรรม ต้องแก้ปัญหาทันทีหลังรับเรื่องร้องเรียน

เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ 3/2559 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงต้นของการประชุมว่าที่ผ่านมาการปราบปรามการทุจริต ถือเป็นผลงานมาโดยตลอด ประเด็นสำคัญ คือขณะนี้เราอยู่ในช่วงปลายโรดแมป ระยะที่ 2 จะต้องเดินหน้าปฏิรูป ให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะ การเดินหน้าแก้ปัญหา ปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่น

"ขณะนี้ สังคมมีปัญหา มีการบิดเบือน ในการให้ข้อมูล ทั้งยังมักจะใช้ความรู้สึกในการตัดสิน จึงเป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง และต้องดำเนินการให้เกิดความชอบธรรมในเรื่องต่าง ๆ ตลอดจนพิจารณาว่าสิ่งใด ที่ทำต่อได้ หรือ ควรเริ่มใหม่ หรือ ประเด็นใด ที่ ไม่ได้ผล ก็ต้องหยุดไว้ก่อน"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

จากนั้นเวลา 12.00 น.พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ในฐานะกรรมการและเลขานุการ คตช. กล่าวว่า ในที่ประชุมได้รับรายงานจากกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับหลักสูตร"โตไปไม่โกง" ซึ่งอยู่ในแผนลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ โดยนายกฯได้ขอให้เร่งรัดอบรมครูที่จะไปถ่ายทอดต่อให้กับเด็ก โดยในปี 59 -60 นี้จะต้องให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนทั้งโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) และโรงเรียนสังกัดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชนด้วย ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงศึกษาได้เริ่มมาบ้างแล้ว

พล.อ.ชาตอุดม กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมได้มีการรายงานการเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะในรูปแบบของแอฟพลิเคชั่นที่ชื่อว่า"จีนิวส์"โดยนายกฯสั่งการให้กระทรวงเทคดนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และ คณะกรรมการกิจการกระจายแลียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ช่วยกันดูให้เป็นรูปธรรม ซึ่งในอนาคตต้องการให้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวบรรจุมากับเครื่องโทรศัพท์มือถือเลย เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารที่เป็นเรื่องสำคัญได้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและส่วนราชการ

นอกจากนี้ทางอนุกรรมการด้านการป้องกันการทุจริตนำเสนอให้ประกาศใช้ราคามาตรฐานเกี่ยวกับการก่อสร้าง ซึ่งจะมีเอกสารจากหน่วยงานทางวิชาการชัดเจน โดยนายกฯได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางรับเรื่องนี้ไปศึกษาต่อ ทั้งนี้จะมีการเสนอกฎหมายพระราชบัญญัติเกี่ยวกับบัญชีเสนอราคาค่าก่อสร้าง เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ในวันศุกร์ที่1 ก.ค.นี้ ซึ่งนายกฯได้สั่งให้ทำบัญชีราคาการก่อสร้างมาตรฐานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของราคาการก่อสร้างของทุกส่วนด้วย

พล.อ.ชาตอุดม กล่าวอีกว่า ด้านอนุกรรมการด้านความร่วมมือตกลงคุณธรรม ได้รายงานถึงผลการดำเนินการสร้างความรับรู้ และการที่ต้องมีผู้สังเกตการณ์เข้าไปอยู่ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของส่วนราชการ โดยเฉพาะโครงการที่มีจำนวนเงินสูง ซึ่งได้มีการขยายผลไปสู่ส่วนราชการอื่นๆแล้ว นอกจากนี้อนุกรรมการด้านการต่อต้านคอรัปชั่น ได้เสนอการจัดงานวันต่อต้านคอรัปชั่น ที่จะจัดงาน 2 วัน คือ วันที่ที่ 4 ก.ย. จัดที่ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และวันที่ 6 ก.ย. จะเป็นวันจัดสัมมนา โดยจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ขณะเดียวกันที่ประชุมได้รายงานถึงสถานการณ์คอรัปชั่นในประเทศไทย ในสายตาของคนไทยและต่างชาติ ระหว่างปี2549 ถึงปัจจุบันพบว่าสถานการณ์คอรัปชั่นลดน้อยลง มีภาพลักษณ์ความโปร่งใสในสายตาของนานาชาติดีขึ้น และดีที่สุดในปีที่ผ่านมา การเรียกรับสินบนจากนักธุรกิจน้อยลง  รวมถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับจากการเรียกรับสินบนลดน้อยลงเกือบครึ่งนับจาก 15 ปีที่ผ่านมา

ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขา ปปท. เปิดเผยว่า คตช. ได้เสนอที่ประชุมเกี่ยวกับการตรวจสอบการขุดเจาะบ่อบาดาล ซึ่งตั้งแต่ปปี 2547มีกว่า 4 หมื่นบ่อ เบื้องต้นได้ดูช่วงปีงบประมาณ 2557 ที่มีกว่า 4,800 บ่อ ที่มีการฝังกลบโดยสุ่มตรวจเบื้องต้น 99 บ่อ พบว่ามีการฝังกลบไม่ถูกต้อง บางบ่อไม่ไม่ได้ทำครบขั้นตอนตามหลักวิชาการ ซึ่งเรื่องนี้ ปปท.จะสรุปและเสนอให้คณะกรรมการเพื่อตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป นอกจากนี้จะพิจารณาการขุดบ่อใหม่ในปี 2558 ต่อเนื่องปี2559 จำนวนกว่า 6,900 บ่อ ซึ่งปปท.ได้ขอข้อมูลและขอพิกัดจุดที่จะขุดเพื่อดำเนินการตรวจสอบ นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงการตั้งศูนย์ร้องเรียนสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ที่ผ่านมา คตช.ได้ประสานงานนักลงทุนต่างชาติ เพื่อทำความเข้าใจกับสมาชิกสภาหอการค้า โดยหลายประเทศให้ความร่วมมือและข้อคิดเห็นอย่างดี และปปท.ได้ประสานกับเอกอัครราชทูตต่างๆในอาเซียน

นายประยงค์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมได้รายงานผลโครงการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ แบบบูรณาการหรือโครงการวันแมพ ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการแล้วเสร็จในระดับจังหวัดแล้ว และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการทางด้านเทคนิคจะมาตรวจสอบความถูกต้อง หลังจากนั้นจะสรุปเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อแก้ไขกฎหมายหรือแก้ไขประกาศในเขตพื้นที่ ทั้งหมดนี้จะเสร็จสิ้นในเดือนก.ย. นี้ ถือว่าเป็นไปตามแผน

นอกจากนี้ยังมีเรื่องโครงการรับจำนำข้าวโดยย้อนไป 4 ปีที่แล้วพบว่ามีการร้องเรียนเรื่องเข้ามาทั้งหมด 551 เรื่อง โดยตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปแล้ว 47 เรื่อง ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ และอยู่ระหว่างเสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนอีก 504 เรื่อง ซึ่งกลุ่มที่จะถูกดำเนินการส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มของการปฏิบัติ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะมีหลายคดีแต่อาจจะไม่นานมาก เพราะลักษณะการกระทำความผิดคล้ายๆกัน และนายกฯได้เร่งให้ดำเนินการโดยเร็วตามกรอบของกฎหมายอย่าปล่อยให้เชื่องช้า

นายประยงค์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการตั้งอนุกรรมการอำนวยการประสานขับเคลื่อนและติตตามผลการดำเนินงานตามมติและคำสั่งของคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ที่มีตนเป็นประธาน จะทำหน้าที่ติดตามมติต่างๆที่ออกไแล้ว ว่ามีการปฏิบัติให้เกิดเป็นรูธรรมหรือไม่ ซึ่งนายกฯกำชับให้ดำเนินการในเชิงรุก ถ้ามีเรื่องร้องเรียนเข้ามาต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว อย่างน้อยเรื่องที่นักลงทุนต่างชาติร้องเรียนเข้ามาก็ต้องรีบไปดำเนินการให้เรียบร้อยและเป้นไปตามกฎหมาย กรณีของเจ้าหน้าที่ภาครัฐถ้าพบว่ากระทำผิดวินัย หรือผิดกฎหมายต้องเร่งดำเนินการ