"หญิงหน่อย"จ่อถกกลุ่มนักการเมืองเก่าหากทางออกประเทศ

คุณหญิงสุดารัตน์เตรียมถกกลุ่มนักการเมืองเก่าหาทางออกประเทศสัปดาห์หน้า ยันไม่อยากให้รัฐธรรมนูญกำกับ

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคไทยรักไทย กล่าวตอนหนึ่งในงานสรุปประเด็นประกอบการถกแถลงร่างรัฐธรรมนูญ เรื่อง "ร่างรัฐธรรมนูญกำกับรัฐบาลไว้อย่างไร" จัดโดย สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ หลักสูตรรัฐศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการเมืองและการจัดการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโครงการปริญญาโท สาขาวิชาการเมืองการปกครองสำหรับนักบริหาร (MPE) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ว่า เรื่องที่จะมีการฉีกรัฐธรรมนูญอีกครั้ง ไม่มีใครจะมาฉีกแล้ว และต่อไปไม่มีการลากรถถังออกมา ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเป็นยุทธศาสตร์ยาว 20 ปี เป็นเรื่องยากที่จะฉีกรัฐธรรมนูญอีกครั้ง 

ทั้งนี้ แต่นักการเมืองก็ต้องมามองตัวเองด้วยว่าจะแก้ไขอย่างไร เพราะได้ยินว่าหลังจากนี้จะมีการสั่งให้จดแจ้งทะเบียนพรรคใหม่ ก็ยังไม่รู้จะใช้ชื่อไร แล้วจะมีซูเปอร์บอร์ดเข้ามาคุม และก่อนร่วมเวทีได้มีการหารือร่วมกันระหว่างตน กับนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เห็นตรงกันว่านักการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุที่ทำให้บ้านเมืองเดินมาสู่จุดนี้ จึงจะมีการนัดพูดคุยเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาในสัปดาห์หน้า ซึ่งไม่เกี่ยวกับพรรค เป็นกลุ่มนักเมืองเก่าแก่ เห็นความเป็นไปของบ้านเมืองไม่ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อประเทศและคนรุ่นต่อไป

ส่วนการทำสัตยาบันระหว่างนักการเมืองเพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชนว่านักการจะร่วมกันแก้ปัญหานั้น ต้องคุยกันก่อน ยังไม่ถึงสัตยาบัน แต่เห็นตรงกันว่านักการเมืองเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ แต่เป็นการเน้นควบคุม โดยจัดสรรอำนาจใหม่ในกลุ่มข้าราชการ กองทัพ ตุลาการ องค์กรอิสระ หรือการควบคุมกำกับประชาธิปไตย หากตั้งโจทย์ที่ว่าจะแก้ไขเรื่องธรรมาภิบาลก็ต้องแก้ที่นักการเมืองด้วย ต้องใช้ธรรมาธิปไตยเข้ามาแก้ไข ไม่ใช่ใช้รัฐธรรมนูญเข้ามากำกับควบคุม

ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้กำหนดวันที่จะนัดหารือกัน แต่คนที่มาร่วมคุยไม่ใช่แค่ 3 คนเท่านั้น แต่จะชวนเพื่อนอดีตสส.จากพรรคอื่นมาหารือด้วย แล้วหลังจากหารือได้เป็นข้อยุติแล้ว จะมีการแถลงร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจนักการเมืองเข้ามาช่วยแก้ปัญหา