กกต.เร่งประชาสัมพันธ์ให้ใช้สิทธิลงประชามติ

กกต. ห่วงประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัดน้อย เตรียม เคาะประตูบ้าน ประชาสัมพันธ์ คาดยอดเพิ่มใน 1-2 สัปดาห์หน้า

วันที่ 31 พ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ นายประวิช รัตนเพียร  กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)   ด้านการมีส่วนร่วม  เป็นประธานเปิดอบรมวิทยากรครู ก  เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการออกเสียงประชามติ รุ่นที่ 2   โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ที่ผ่านมา กกต.ทำงานร่วมกับประชาชนในพื้นที่อยู่แล้ว   ดังนั้น การทำประชามติครั้งนี้  เป้าหมายคือทำอย่างไรที่จะผลักดันให้การมีส่วนร่วมของประชาชนจะเกิดขึ้น   ที่สำคัญตระหนักถึงการออกไปสิทธิออกเสียงอย่างมีคุณภาพของประชาชน

นายประวิช กล่าวว่า กกต.ตั้งความหวังไว้ว่าจะมีผู้มาออกเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 80   จากสถิติในการทำประชามติปี 2550  อยู่ที่ร้อยละ 57   ขณะที่ สถิติการออกเสียงในการเลือกตั้งทั่วสูงถึงร้อยละ 60 – 70

“หน้าที่ของเราคือต้องลงทุกบ้าน ทุกหมู่บ้าน อธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า ที่ถูกต้องทำอย่างไร  บัตรถึงจะไม่เสีย  เชื่อว่าจะต้องเจอคำถามยอดนิยม  คือ บทบัญญัติของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ  ที่จะต้องตอบประชาชน ฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมความพร้อม  คือ  ความรู้ความเข้าใจในบทบัญญัติของกฎหมายฉบับนี้” นายประวิช กล่าว และว่าผู้

นายประวิช กล่าวว่า  ที่จะตัดสินใจการกระทำใดเข้าข่าวความผิดตามมาตรา 61   คือ บุคคลที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม  ทั้งตำรวจ อัยการ และศาล    มั่นใจว่า ทุกคนจะสามารถปฏิบัติภารกิจอย่างประสบความสำเร็จ รวมถึง กระบวนการนับคะแนนและประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการ ภายใน 19.00 น. ของวันที่ 7 ส.ค.ด้วย

นายประวิช ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับยอดการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตจังหวัดสะท้อนกลับมาที่กกต.ว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้พลังทุ่มเทให้มากกว่านี้ว่าจะทำอย่างไรให้มีผู้ลงทะเบียนมากขึ้นซึ่งเหลือเวลาอีก37วันที่เปิดให้ลงทะเบียนออกเสียงนอกเขตจังหวัดโดยวิธีการหนึ่งที่กกต.จะดำเนินการคือให้เครือข่ายอาสาสมัครของกกต.ลงพื้นที่ทุกหมู่บ้านตำบลไปบอกผู้ปกครองของนักเรียน นักศึกษาให้ลงทะเบียนใช้สิทธินอกเขต โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับบ้านรวมถึงประสานกับสภาหอการค้าจังหวัด และอุตสาหกรรมจังหวัดให้อำนวยความสะดวกให้กับพนักงานสามารถใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตของบริษัทนายจ้างในการลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตได้และมั่นใจว่าภายใน1-2 สัปดาห์ประชาชนจะลงทะเบียนขอใช้สิทธิมากขึ้น

นายประวิช กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)จะตั้งศูนย์ปราบโกงในระดับจังหวัดและส่งอาสาสมัครลงจับตาการออกเสียงในทุกหน่วยออกเสียงว่าไม่ได้ขัดข้องใดๆและยังต้องขอบคุณที่ประชาชนให้ความสำคัญในการตั้งศูนย์ปราบโกงสนับสนุนการทำประชามติให้คนอยากมาใช้สิทธิออกเสียงมากขึ้น เพียงแต่ขอให้ระมัดระวังให้การดำเนินการอยู่ในขอบเขตตามสิทธิที่กฎหมายเอื้อไว้ให้ ซึ่งทุกคนจะต้องรับผิดชอบตัวเอง