posttoday

รัฐบาลชูสตาร์ทอัพขับเคลื่อนเศรษฐกิจหวังสร้างความยั่งยืน

07 พฤษภาคม 2559

โฆษกรัฐบาล ย้ำ นโยบายสตาร์ทอัพ หนุนธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ สร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ยันไม่ทิ้งเอสเอ็มอีที่มีความสำคัญด้านการจ้างงาน

โฆษกรัฐบาล ย้ำ นโยบายสตาร์ทอัพ หนุนธุรกิจคนรุ่นใหม่ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ สร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ ยันไม่ทิ้งเอสเอ็มอีที่มีความสำคัญด้านการจ้างงาน 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อห่วงใยเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพของรัฐบาลจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เหมือนกับการส่งเสริมเอสเอ็มอีและโอท็อปของรัฐบาลชุดก่อน ๆ ว่า รัฐบาลนี้คำนึงถึงความยั่งยืนที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจเอสเอ็มอีรูปแบบใหม่ ไม่ใช่การทุ่มงบประมาณลงไปอย่างไร้ค่าตามที่กล่าวอ้าง

“ธุรกิจสตาร์ทอัพ คือการที่รัฐบาลส่งเสริมให้ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ หรือผู้ที่อยากแยกตัวออกจากบริษัทใหญ่มามีกิจการเป็นของตนเอง และได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ประโยชน์ ซึ่งครอบคลุมหลายด้าน เช่น ด้านการสื่อสาร การเกษตร การท่องเที่ยว ฯลฯ หรือเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ ที่จะมีความยั่งยืนในอนาคต เพราะสินค้าจะมีมูลค่าเพิ่มและต่อยอดพัฒนาได้ ถือเป็นนักรบใหม่เอสเอ็มอี” พล.ต.สรรเสริญ  กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่าส่วนเอสเอ็มอีเดิมที่มีอยู่กว่า 2 ล้านราย ซึ่งมีปัญหาความแตกต่างกันทั้งในด้านขนาด เงินทุน และองค์ความรู้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งแต่ช่วยแก้ปัญหาโดยจัดกลุ่มเพื่อพัฒนาตามศักยภาพ เช่น กลุ่มที่เกิดใหม่ กลุ่มที่เติบโตสามารถขยายกิจการในประเทศได้ กลุ่มที่สามารถส่งออกได้ และกลุ่มที่เลิกกิจการแต่ยังมีศักยภาพทางธุรกิจ

“เอสเอ็มอีคือผู้สร้างรายได้และจ้างงานที่สำคัญ โดยกว่าร้อยละ 99.5 เป็นธุรกิจขนาดเล็ก และที่เหลือร้อยละ 0.5 เป็นธุรกิจขนาดกลาง ซึ่งเป็นกิจการที่มีศักยภาพต่อจีดีพี รัฐบาลจึงผลักดันให้เอสเอ็มอีเติบโตจากขนาดเล็กไปสู่ขนาดกลาง และขนาดกลางไปสู่ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ยกระดับศักยภาพของประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่มีรายได้สูง การเขียนแสดงความเห็น โดยขาดการศึกษาข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจนจากผู้รู้ หรือผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง แต่เป็นเพียงการจินตนาการเทียบเคียงเอาเอง อาจทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดจากข้อมูลที่บิดเบือนได้” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว