พิเชษฐ์ แฉ ส.ส-สว ส่อถือบัตรสมาร์ทการ์ดปลอมทั่วสภา

พิเชษฐ์ แฉ  ส.ส-สว  ส่อถือบัตรสมาร์ทการ์ดปลอมทั่วสภา  จี้ มหาดไทยทำให้ถูกต้อง  ด้าน ชวลิต ระบุ คณะทำงานมท.ดองเรื่อง  ตอกอย่าจับประชาชนเป็นตัวประกัน  บุญจง โบ้ย ไอซีที ต้องรับผิดชอบ

นายพิเชษฐ์ พันธุ์วิชาติกุล  ส.ส. กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฏร  ซึ่งมีการพิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนแบบเอนกประสงค์ (บัตรสมาร์ตการ์ด)  ว่า  ได้ไปทำธุรกรรมที่ ธนาคารกรุงไทย สาขารัฐสภา  ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า บัตรสมาร์ตการ์ดของ นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ไม่สามารถใช้ได้เพราะไม่มีข้อมูลถือบัตร  ตนเองจึงขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย ปรากฎว่าไม่พบข้อมูลในบัตรเช่นกัน   ดังนั้นจึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบด้วย เพราะตนเองจำได้ว่าเมื่อประมาณวันที่ 1 มิ.ย. 2547 ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมการปกครองมาทำบัตรสมาร์ตการ์ดให้กับ  ส.ส. ส.ว.  เจ้าหน้าหน้าที่รัฐสภา สื่อมวลชน   ทำให้สงสัยว่าบัตรที่ทำในตอนนั้นเข้าข่ายลักษณะบัตรปลอมหรือไม่ เพราะในบัตรไม่พบข้อมูลผู้ถือบัตรเลย

“ผมคิดว่าถ้านำบัตรนี้ไปใช้ในต่างประเทศจะผิดกฎหมายทันที เพราะเข้าข่ายบัตรปลอม   ซึ่งเท่ากับว่าเราถือบัตรปลอมมา 5 ปีแล้ว เพราะในชิพที่ติดในบัตรไม่มีอะไรเลย เป็นชิพเปล่าๆ ไม่รู้ว่าเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นควรมีการแก้ไข  เรื่องนี้ได้บอกนายบุญจง  วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย  ไปแล้วว่ากระทรวงมหาดไทยควรส่งเจ้าหน้าที่มาทำบัตรให้ใหม่ แม้จะได้บัตรเหลืองก็ต้องทำ  เพื่อทำให้ถูกต้อง และขอให้เป็นบัตรสมาร์ตการ์ดจริงๆ ไม่ใช่บัตรที่มีแต่ชิพเปล่าแบบนี้”  นายพิเชษฐ์ กล่าว

ด้านนายชวลิต  วิชยสุทธิ์  ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย  เป็นผู้ตั้งกระทู้สดเรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชน  (สมาร์ตการ์ด) ซึ่งนายบุญจง  วงศ์ไตรรัตน์  รมช.มหาดไทย  เป็นผู้ตอบ  

นายชวลิต  กล่าวว่า    การทำบัตรประจำตัวประชาชนไม่เคยมีปัญหามานานแล้ว แต่กลับมีปัญหาในรอบ 14 ปี ในสมัย นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็นรมว.มหาดไทย   โดยประชาชนไม่สามารถมีบัตรสมาร์ตการ์ดได้แต่กลับได้บัตรเหลืองแทน  โดยเป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบอย่างกว้างขวาง ทั้งกับประชาชน   ข้าราชการ และ เอกชน   ที่ต้องเสียทั้งเวลาและงบประมาณจำนวนมาก   เพราะบัตรสมาร์ตการ์ดเกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆจำนวนมาก  เช่นเรื่องการประกันสังคม เรื่องการประกันสุขภาพถ้วนหน้า  รวมถึงเรื่องการบำรุงรักษาช้อมูลในชิพของสมาร์ทการ์ดเดือนละ 1.3 ล้านบาท ที่ต้องจ่ายให้กับเอกชนตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการพิมพ์บัตรเหลืองและซองพลาสติกจำนวนหลายร้อยล้านบาท   รวมทั้งบริษัทวี-สมาร์ทที่ประมูลทำบัตรสมาร์ทการ์ดก็ได้รับความเสียหายด้วยทั้งที่ทำตามทีโออาร์ทุกอย่าง  ขอร้องว่าอย่าเอาเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมมาเป็นประเด็นจนเหมือนจับประชาชนเป็นตัวประกัน

นายชวลิต กล่าวว่า  ความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะกระทรวงมหาดไทยมีการบริหารงานที่ล่าช้า  เพราะทุกเรื่องต้องเสนอผ่านคณะทำงานของรมว.มหาดไทย  จนเป็นพูดกันว่าเอาทุกบาททุกสตางค์ จนเรื่องติดอยู่ตรงนั้นเป็นปัญหาคอขวด ถามว่า คณะทำงานของกระทรวงมหาดไทยมีสิทธิอะไรไปดองเรื่องรูปแบบบัตรสมาร์ตการ์ดถึง 3 เดือน 

“ดังนั้น  อยากถามว่าจะแก้ไขเรื่องนี้อย่างไร  เพื่อไม่ให้เรื่องไปติดอยู่ที่คณะทำงานของกระทรวงมหาดไทย เพราะขณะนี้มีคนพูดกันว่าคณะทำงานเป็นรัฐมนตรีตัวจริงแต่นายชวรัตน์เป็นแค่รัฐมนตรีเงา อย่างไรก็ตาม  ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงไอซีทีเป็นเพราะการแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวหรืออย่างไร  ถ้าช่วยกันแก้ไขปัญหาของทั้งสองกระทรวงปัญหาก็จบ แต่ถ้าคิดว่าต่างคนต่างทำไม่ร่วมมือกันทำงานไม่มีเอกภาพ และจะแก้ไขปัญหาประชาชนได้อย่างไร” นายชวลิต  กล่าว  

ด้านนายบุญจง  กล่าวว่า    เหตุที่ยังไม่สามารถออกบัตรสมาร์ตการ์ดให้กับประชาชนในขณะนี้ได้ เพราะบัตรที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทำไว้ขัดกับกฎกระทรวงฉบับที่ 22  ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ตีความมาแล้ว  เพราะมีเส้นสีแดงปรากฎซึ่งนอกเหนือจากที่กฎกระทรวงกำหนดไว้ว่าต้องมีสีขาว และพื้นสีฟ้าเท่านั้น   แม้ว่าเส้นสีแดงจะเป็นเส้นป้องกันการปลอมแปลงก็ตาม   แต่กระทรวงมหาดไทยต้องยึดกฎหมายจึงต้องชะลอการออกบัตรสมาร์ตการ์ดไปก่อน  จนกว่าจะมีบัตรใหม่ตามที่กฎกระทรวงฉบับที่ 22 กำหนด  ซึ่งกระทรวงไอซีทีต้องรับผิดชอบปัญหาที่เกิดขึ้น  อย่างไรก็ตามยืนยันว่าบัตรเหลืองที่ให้ประชาชนใช้ตอนนี้สามารถใช้ทำธุรกรรมเหมือนบัตรประชาชนทุกอย่าง  ส่วนเรื่องที่ระบุว่า คณะทำงานรมว.มหาดไทย  ดองเรื่องต่างๆไว้นั้น ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่กลั่นกรองงานของรัฐมนตรี  และอยากทราบว่ามีเรื่องอะไรบ้างเพื่อที่จะได้ไปตรวจสอบว่าทำไมถึงล่าช้า