posttoday

สุวัจน์พร้อมคัมแบ็กเทนนิส

30 มกราคม 2559

กกท.ขอเวลา1สัปดาห์ชี้ชะตา สมบัติลั่นเดินหน้าสู้ถึงที่สุด

กกท.ขอเวลา1สัปดาห์ชี้ชะตา สมบัติลั่นเดินหน้าสู้ถึงที่สุด

สุวัจน์ ปฏิเสธปมขัดแย้งในทีมบริหาร เปรยพร้อมกลับมานั่งเก้าอี้นายกเทนนิสอีกครั้ง

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ รักษาการนายกสมาคมกีฬาเทนนิส ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยฯ ปฏิเสธพูดถึงการเลือกตั้งนายกสมาคมที่ผ่านมา ซึ่งพ่ายต่อ สมบัติ เอื้อมมงคล 19-35 เสียง แต่ยืนยันว่า การบริหารงานเดินมาถูกทางแล้วและพร้อมกลับมาผลักดันต่อ หลังสโมสรสมาชิกบางส่วนกลับลำยื่นหนังสือต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

“คณะกรรมการก็ไม่ได้ขัดแย้งกัน น่าจะทำงานร่วมกันต่อไปได้ ส่วนตัวผมนั้นบอกสโมสรไปแล้วว่าอยู่ในวงการเทนนิสมานาน เป็นรองประธานอาวุโสสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย ก็จะทำหน้าที่ให้เต็มที่เพื่อพัฒนาต่อไป ผมไม่ยึดติดกับตำแหน่ง เพราะอยู่ตรงไหนก็ช่วยพัฒนากีฬาชาติได้ ผมพร้อมจะพัฒนาวงการเทนนิสและกีฬาไทยต่อไป” สุวัจน์ กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร ประธานในการเลือกตั้ง และ ไทยทนุ วรรณสุข รองเลขาธิการสมาคมฯ ในฐานะตัวแทนสโมสรสมาชิก ร่วมแถลงเห็นพ้องให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และมอบกระเช้าเนื่องในโอกาสสวัสดีปีใหม่ย้อนหลังและอวยพรวันเกิดสุวัจน์ 9 ก.พ.ล่วงหน้า ก่อนจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. ที่หัวหมาก

“ตัวแทนสโมสรได้ยื่นหนังสือให้ กกท.ในฐานะนายทะเบียน เพื่อพิจารณาให้การประชุมวันเลือกตั้งเป็นโมฆะ โดยเหตุผลว่าการประชุมไม่ครบวาระ และประธานประชุมประกาศเป็นโมฆะ โดยมี 37 สโมสรลงชื่อขอให้เป็นโมฆะ ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับ พ.ร.บ.การกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 มาตรา 84 ระบุว่า สโมสร 1 ใน 10 และคณะกรรมการ 1 ใน 3 ซึ่งเห็นว่าการดำเนินการไม่เป็นไปตามข้อบังคับสามารถยื่นเรื่องต่อนายทะเบียนได้ภายใน 30 วัน ซึ่ง กกท.จะรับเอกสารทั้งหมดมาตรวจสอบถึงความถูกต้องอีกครั้ง คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่เกิน 1 สัปดาห์” บิ๊กเสือ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าหาก กกท.พิจารณาให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ จะเป็นกรณีแรกในประวัติศาสตร์วงการกีฬาไทย ที่สโมสรสมาชิกกลับลำยื่นให้มีลงคะแนนใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การเป็นบรรทัดฐานให้กับสมาคมกีฬาอื่นๆ กระทำตาม ผู้ว่าการ กกท. นิ่งไปสักพักก่อนจะตอบสั้นๆ ว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น ท่ามกลางกระแสวิจารณ์มากมายในสังคมออนไลน์

ขณะที่ สมบัติ กล่าวว่า กกท.รู้ระเบียบข้อบังคับดีอยู่แล้ว น่าจะวินิจฉัยออกมาอย่างถูกต้องตามมาตราต่างๆ ในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งคงทำได้แค่รอผลการพิจารณา แต่ส่วนตัวเข้ามาด้วยความบริสุทธิ์ และเมื่อเดินหน้าแล้วก็จะสู้ให้ถึงที่สุด หากสุดทางแล้วแพ้ก็พร้อมยอมรับ