posttoday

ศาลรับฟ้อง"อดีต รมช.คลัง"ช่วย“โอ๊ค-เอม”เลี่ยงภาษีหุ้นชินฯ

29 ธันวาคม 2558

ศาลรับฟ้อง ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง อดีต รมช.คลัง ช่วย พานทองแท้ – พิณทองทา ไม่ต้องเสียภาษี คนละ 8 พันล้าน เมื่อปี 49 นัดไต่สวนพยานครั้งแรก 23 ก.พ.2559

ศาลรับฟ้อง ป.ป.ช. ยื่นฟ้อง อดีต รมช.คลัง ช่วย พานทองแท้ – พิณทองทา ไม่ต้องเสียภาษี  คนละ  8 พันล้าน เมื่อปี 49 นัดไต่สวนพยานครั้งแรก  23 ก.พ.2559

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องพิจารณาคดี 902 ศาลอาญา แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ มีคำสั่งประทับรับฟ้อง คดีที่ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องนางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย นายกริช วิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

คดีนี้ ป.ป.ช.ยื่นฟ้องแผนกคดีทุจริตฯ ในศาลอาญา เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.58 ระบุพฤติการณ์สรุปว่า  จำเลยที่ 1-4 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของกรมสรรพากร ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อไม่ให้นายพานทองแท้  และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรของนายทักษิณต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย และได้รับประโยชน์ที่มิควรโดยชอบด้วยกฎหมาย จากการที่นายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทาซื้อหุ้น บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49.25 บาท ถือได้ว่านายพานทองแท้และ น.ส.พินทองทา เป็นผู้ได้รับเงินพึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 39 และมีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท ซึ่งการกระทำนั้นทำให้กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และราชการเสียหาย

โดยชั้นไต่สวนมูลฟ้อง ศาลเห็นว่าการกระทำของจำเลยที่ 1-4 ตามฟ้อง ป.ป.ช.โจทก์ มีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย จึงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ส่วน น.ส.ปราณี จำเลยที่ 5 ไม่ได้มีฐานะเป็นเจ้าพนักงาน จึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำของจำเลยที่ 1-4 ศาลจึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาต่อไป

ทั้งนี้ ศาลมีหมายเรียกให้จำเลยที่ 1-5 มารายงานตัว และดำเนินการไต่สวนพยานครั้งแรกในวันที่  23 ก.พ.59 เวลา 09.00 น.