posttoday

อรรถวิชช์ยก 6 ปมโต้กิตติรัตน์แนะปรับ"หม่อมอุ๋ย" พ้นหน.ทีมศก.

21 กรกฎาคม 2558

อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ยก 6 ปมโต้ กิตติรัตน์ อัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้มโหฬาร แนะปรับ"หม่อมอุ๋ย" พ้นหน.ทีมศก.

อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์  ยก 6 ปมโต้ กิตติรัตน์ อัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้มโหฬาร แนะปรับ"หม่อมอุ๋ย" พ้นหน.ทีมศก.

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณี ​นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกเศรษฐกิจ และรมว.คลังพาดพิงว่าโกหกคำโตกรณีกรณีรัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้มโหฬาร  โดยขอชี้แจงว่า 1.​หนี้สาธารณะของแผ่นดิน ตัวเลขของกระทรวงการคลังระบุชัดสิ้นปี54ขณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งคือ4.2ล้านล้านบาท  และปี 56ในเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่ง คือ 5.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านล้านบาท ในช่วงรัฐบาลเดียว

2.​ ในส่วนหนี้ภาคครัวเรือนของประชาชนทั่วไปเฉลี่ย ตัวเลขของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุชัด สิ้นปี54 ขณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารับตำแหน่งคือ 159,432 บาทต่อครัวเรือน และปี56ในเวลาที่คุณยิ่งลักษณ์ออกคือ 188,774 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 29,342 บาท คิดเป็น 18.40% แบบก้าวกระโดดและน่ากังวล

3. นายกิตติรัตน์ระบุว่าทำจีดีพีโต ซึ่งจริงครึ่งเดียว  ปี 54 จีดีพี แค่ 0.1 ปี 55  จีดีพี โตมากเป็น 6.5 เพราะปี 55 มีการบริโภคสูงเพราะประชาชนต้องซ่อมบ้าน การลงทุนสูงเพราะเถ้าแก่ต้องซ่อมโรงงาน เนื่องจากผลของ"น้ำท่วมใหญ่ที่บอกเอาอยู่ช่วงปลายปี54" ​ดังนั้นจึงคิดไม่ถึงว่ายังกล้าพูดอีกว่าทำจีดีพีโต สุดท้ายปี56ลดเหลือแค่ 2.9

4. จำนำข้าว ใครที่ว่าหากเสียหายเกิน6หมื่นล้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องถามเลยว่ารองนายกเศรษฐกิจจะรับผิดชอบอย่างไร  แต่แล้วผลเสียหายคือ 6 แสนล้านบาท  นายกิตติรัตน์ยังก็อยู่ต่ออีกเป็นปี จนคนมาไล่ คำอ้างที่ว่ายังไม่เสียหายเพราะยังไม่ปิดบัญชี ​จึงจริงครึ่งเดียว​

5. รถคันแรกใช้เงิน 9 หมื่นล้านบาท จะกระตุ้นให้ต่างชาติสร้างโรงงานรถเยอะๆ เอาเข้าจริงบริษัทรถเค้าให้รอคิวซื้อรอข้ามปี การที่หนี้ครัวเรือนเพิ่มเยอะมันกระทบการจับจ่ายของอื่นเช่น ภาคธุรกิจอาหาร บริการ เพราะเงินในกระเป๋าคนไทยมันมุ่งสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ผู้ผลิตได้รับBOIยกเว้นภาษี  อีกทั้งเงิน9หมื่นล้านมันสร้างโรงพยาบาลอย่างดีได้ถึง20แห่ง

6. งบประมาณประจำปี ที่นายกิตติรัตน์ระบุว่าลดภาระได้เยอะซึ่งจริงแค่ครึ่งเดียว ​ เพราะ เอาไปซุกหนี้ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายแทน  ซึ่ง​ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.)​ โดนหนักที่สุด  ลืมแล้วเหรอขอวงเงินเพิ่มกรณีจำนำข้าวตลอด สุดท้ายก็ยังหมุนไม่พอจ่ายชาวนา โดยเล่นไม่หมุนขายข้าวตามปกติ ดันขายข้าวจีทูจีปลอมๆกับรัฐวิสาหกิจมณฑลกวางตุ้งที่นำเข้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬาGSSG (Guangdong stationary & sporting goods) ซึ่งไม่มีใบอนุญาตนำเข้าข้าวไปจีน ข้าวถูกวนมาขายในประเทศ กดราคาข้าวในตลาด นโยบายปากบอกรับจำนำ"ข้าวเปลือก"15,000แต่ทำจีทูจีปลอมขาย"ข้าวสาร"สีแล้วแค่10,000บาท มันชี้นำราคา"ลง"นะครับ ชาวนาเดือนร้อน

"หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ดีจะทำให้นายกรัฐมนตรีมีบารมีและพาชาติรุ่งเรือง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่แย่จะทำให้นายกรัฐมนตรีตกต่ำและชาติฉิบหาย ลึกๆนายกิตติรัตน์น่าจะทราบ"​นายอรรถวิชช์ ระบุ

นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ ยังกล่าววถึงกระแสการปรับครม. ว่าหากเปรียบเทียบ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเห็นว่า ดีกว่าทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  แต่ถ้าต้องการปฏิรูปต้องเปลี่ยนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจซึ่งมีโอกาสบริหารเศรษฐกิจหลังการรัฐประหารสองยุคคือ ยุคคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)​และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้
ทั้งนี้  ทำได้แค่ประคับคองเศรษฐกิจเท่านั้น เพราะว่าไม่มีนโยบายในเชิงรุกและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ทันท่วงที ทั้งเรื่อง ประมง และกรณีปัญหา ICAOเรื่องการบินขึ้นธงแดงประเทศไทย เพราะไม่มีการเดินเกมล่วงหน้า ไม่มีการเตรียมความพร้อม หากไม่รีบดำเนินการจะกระทบกับอาหารแช่แข็งและเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่านโ ยบายเศรษฐกิจไม่รองรับการปฏิรูป

นายอรรถวิชช์  กล่าวอีกว่า ตัวอย่างยุทธศาสตร์ของจีนในการสร้างเส้นทางสายไหมใหม่ในปี 2013 โดยปรับไปด้านการเดินเรือทำให้ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องรถไฟความเร็วสูงจึงทำให้ไม่สนใจเรื่องร่วมลงทุนกับไทยในโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย แต่รัฐบาลชุดนี้กลับไม่เท่าทันกับการปรับเปลี่ยนแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน