อรรถวิชช์ยก 6 ปมโต้กิตติรัตน์แนะปรับ"หม่อมอุ๋ย" พ้นหน.ทีมศก.
อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ยก 6 ปมโต้ กิตติรัตน์ อัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้มโหฬาร แนะปรับ"หม่อมอุ๋ย" พ้นหน.ทีมศก.
อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ยก 6 ปมโต้ กิตติรัตน์ อัด รัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้มโหฬาร แนะปรับ"หม่อมอุ๋ย" พ้นหน.ทีมศก.
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีตสส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงกรณี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกเศรษฐกิจ และรมว.คลังพาดพิงว่าโกหกคำโตกรณีกรณีรัฐบาลยิ่งลักษณ์สร้างหนี้มโหฬาร โดยขอชี้แจงว่า 1.หนี้สาธารณะของแผ่นดิน ตัวเลขของกระทรวงการคลังระบุชัดสิ้นปี54ขณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ารับตำแหน่งคือ4.2ล้านล้านบาท และปี 56ในเวลาที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกจากตำแหน่ง คือ 5.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านล้านบาท ในช่วงรัฐบาลเดียว
2. ในส่วนหนี้ภาคครัวเรือนของประชาชนทั่วไปเฉลี่ย ตัวเลขของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุชัด สิ้นปี54 ขณะ น.ส.ยิ่งลักษณ์เข้ารับตำแหน่งคือ 159,432 บาทต่อครัวเรือน และปี56ในเวลาที่คุณยิ่งลักษณ์ออกคือ 188,774 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มขึ้น 29,342 บาท คิดเป็น 18.40% แบบก้าวกระโดดและน่ากังวล
3. นายกิตติรัตน์ระบุว่าทำจีดีพีโต ซึ่งจริงครึ่งเดียว ปี 54 จีดีพี แค่ 0.1 ปี 55 จีดีพี โตมากเป็น 6.5 เพราะปี 55 มีการบริโภคสูงเพราะประชาชนต้องซ่อมบ้าน การลงทุนสูงเพราะเถ้าแก่ต้องซ่อมโรงงาน เนื่องจากผลของ"น้ำท่วมใหญ่ที่บอกเอาอยู่ช่วงปลายปี54" ดังนั้นจึงคิดไม่ถึงว่ายังกล้าพูดอีกว่าทำจีดีพีโต สุดท้ายปี56ลดเหลือแค่ 2.9
4. จำนำข้าว ใครที่ว่าหากเสียหายเกิน6หมื่นล้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องถามเลยว่ารองนายกเศรษฐกิจจะรับผิดชอบอย่างไร แต่แล้วผลเสียหายคือ 6 แสนล้านบาท นายกิตติรัตน์ยังก็อยู่ต่ออีกเป็นปี จนคนมาไล่ คำอ้างที่ว่ายังไม่เสียหายเพราะยังไม่ปิดบัญชี จึงจริงครึ่งเดียว
5. รถคันแรกใช้เงิน 9 หมื่นล้านบาท จะกระตุ้นให้ต่างชาติสร้างโรงงานรถเยอะๆ เอาเข้าจริงบริษัทรถเค้าให้รอคิวซื้อรอข้ามปี การที่หนี้ครัวเรือนเพิ่มเยอะมันกระทบการจับจ่ายของอื่นเช่น ภาคธุรกิจอาหาร บริการ เพราะเงินในกระเป๋าคนไทยมันมุ่งสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ที่ผู้ผลิตได้รับBOIยกเว้นภาษี อีกทั้งเงิน9หมื่นล้านมันสร้างโรงพยาบาลอย่างดีได้ถึง20แห่ง
6. งบประมาณประจำปี ที่นายกิตติรัตน์ระบุว่าลดภาระได้เยอะซึ่งจริงแค่ครึ่งเดียว เพราะ เอาไปซุกหนี้ให้รัฐวิสาหกิจจ่ายแทน ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) โดนหนักที่สุด ลืมแล้วเหรอขอวงเงินเพิ่มกรณีจำนำข้าวตลอด สุดท้ายก็ยังหมุนไม่พอจ่ายชาวนา โดยเล่นไม่หมุนขายข้าวตามปกติ ดันขายข้าวจีทูจีปลอมๆกับรัฐวิสาหกิจมณฑลกวางตุ้งที่นำเข้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬาGSSG (Guangdong stationary & sporting goods) ซึ่งไม่มีใบอนุญาตนำเข้าข้าวไปจีน ข้าวถูกวนมาขายในประเทศ กดราคาข้าวในตลาด นโยบายปากบอกรับจำนำ"ข้าวเปลือก"15,000แต่ทำจีทูจีปลอมขาย"ข้าวสาร"สีแล้วแค่10,000บาท มันชี้นำราคา"ลง"นะครับ ชาวนาเดือนร้อน
"หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ดีจะทำให้นายกรัฐมนตรีมีบารมีและพาชาติรุ่งเรือง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่แย่จะทำให้นายกรัฐมนตรีตกต่ำและชาติฉิบหาย ลึกๆนายกิตติรัตน์น่าจะทราบ"นายอรรถวิชช์ ระบุ
นอกจากนี้ นายอรรถวิชช์ ยังกล่าววถึงกระแสการปรับครม. ว่าหากเปรียบเทียบ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเห็นว่า ดีกว่าทีมเศรษฐกิจในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ถ้าต้องการปฏิรูปต้องเปลี่ยนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจซึ่งมีโอกาสบริหารเศรษฐกิจหลังการรัฐประหารสองยุคคือ ยุคคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)และ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แต่ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้
ทั้งนี้ ทำได้แค่ประคับคองเศรษฐกิจเท่านั้น เพราะว่าไม่มีนโยบายในเชิงรุกและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไม่ทันท่วงที ทั้งเรื่อง ประมง และกรณีปัญหา ICAOเรื่องการบินขึ้นธงแดงประเทศไทย เพราะไม่มีการเดินเกมล่วงหน้า ไม่มีการเตรียมความพร้อม หากไม่รีบดำเนินการจะกระทบกับอาหารแช่แข็งและเศรษฐกิจ แสดงให้เห็นว่านโ ยบายเศรษฐกิจไม่รองรับการปฏิรูป
นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า ตัวอย่างยุทธศาสตร์ของจีนในการสร้างเส้นทางสายไหมใหม่ในปี 2013 โดยปรับไปด้านการเดินเรือทำให้ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องรถไฟความเร็วสูงจึงทำให้ไม่สนใจเรื่องร่วมลงทุนกับไทยในโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย แต่รัฐบาลชุดนี้กลับไม่เท่าทันกับการปรับเปลี่ยนแผนเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน