พท.เตือนไม่ปรับแก้ร่างรธน.ระวังเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่

เพื่อไทยเตือนหากไม่ปรับแก้ร่างรธน.ระวังเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ หลังทุกฝ่ายต่อต้าน มองรัฐบาลสอบตกครบ1 ปี บริหารประเทศ

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในวันที่ 22 พ.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 1 ปีการบริหารประเทศภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.นั้น หากมีคะแนนเต็ม 100 ตนให้สอบตก เพราะช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ปฏิวัติยึดอำนาจ อ้างว่าเข้ามาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศ ไม่เข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทั้งนั้น ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับทุกคน แต่เมื่อเข้ามาทำหน้าที่แล้วกลับตรงกันข้าม ความขัดแย้งกลับไม่ลดลง ปล่อยให้องค์กรอิสระโดยเฉพาะ ป.ป.ช.ที่อ้างว่าแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น แต่กลับเป็นต้นเหตุของปัญหาเสียเองโดยเฉพาะฝ่ายประชาธิปไตยอย่างพรรคเพื่อไทย ป.ป.ช.ตั้งเรื่องเพื่อจัดการและชี้มูลกับพรรคเพื่อไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุดที่ ป.ป.ช.เตรียมไต่สวนคดีอาญาอดีต ส.ส. 310 คน กรณีลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ อีก ขณะที่คดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์แทบไม่มีความคืบหน้า บางคดีปล่อยจนหมดอายุความ นี่คือต้นเหตุของความเป็นสองมาตรฐานหรือไม่

นายวรชัย กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งหลายมาตรา ถูกต่อต้านจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง หากรัฐบาลและ คสช.ยังไม่ปรับแก้ จะกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่ ทำให้ประเทศเสียหายอย่างร้ายแรงที่สุด เพิ่มความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ความปรองดองที่ พล.อ.ประยุทธ์หวังก็คงไม่เกิดขึ้น ในส่วนของการค้าการลงทุนก็ยังไม่ดีขึ้น เศรษฐกิจโตติดลบ นักลงทุนย้านฐานการผลิตเพราะไม่มีความเชื่อมั่น เงินคงคลังของรัฐบาลก็เหลือน้อยลง ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความสำคัญแต่กับการดูแลด้านความมั่นคงของรัฐบาลเพียงอย่างเดียว การห้ามพวกเราพูดหรือเคลื่อนไหวนั้นไม่ใช่การแก้ปัญหา

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ต้องเร่งเดินหน้าสร้างประชาธิปไตย เริ่มจากการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย เดินหน้าทำประชามติ หากไม่ผ่านก็ไม่ควรเริ่มนับหนึ่งใหม่เพราะต้องใช้เวลาเป็นปีๆ แบบนี้คนอาจจะมองว่าอยู่เพื่อสืบทอดหรือรักษาอำนาจเอาไว้หรือไม่ ดังนั้นขอให้เขียนรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับความรู้สึกของประชาชน ทำให้ประชาชนเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ต้องการประชาธิปไตยอย่างแท้จริง รับรองว่าความเชื่อมั่นกลับมา ประเทศเดินต่อได้อย่างแน่นอน