อนุกมธ.ปฏิรูปกฎหมายเสนอเปิดรับสมัครคปก.ใหม่

อนุกมธ.ปฏิรูปกฎหมาย จี้ สปช. ลาออก คปก. เสนอยกเลิกรับสมัครใหม่ ห่วง 20 สปช. เรียน ปปร.​กระทบงาน ชี้มีเจ้าเก่าจ้องตรวจสอบ ​

นายอมร วาณิชวิวัฒน์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการ(กมธ.)ปฏิรูปการบังคับใช้กฎหมาย สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แถลงว่า คณะอนุกมธ.ได้ศึกษากฎหมายที่มีปัญหาต่างๆ และได้ข้อสรุปที่จะปรับปรุงแก้ไข อาทิ กฎหมายอาคารและผังเมือง ที่จะแก้ปัญหาการใช้อาคารผิดประเภท เช่นการใช้เกสเฮ้าท์เป็นโรงแรม โดยได้หารือร่วมกับคณะกฤษฎีกา และจะเสนอแก้ไขกฎหมายผังเมืองต่างๆ นอกจากนี้ยังมีกฎหมายควบคุมการใช้อาวุธปืน จากกรณีที่มีปัญหาการใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าในเทศกาลต่างๆ ทำให้กระสุนปืนไปตกลงบนอาคารบ้านเรือนจนเกิดผู้เสียชีวิต และกฎหมายแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางจราจร โดยเฉพาะอุบัติเหตุทางจักยาน ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการร่างเนิ้อหาปรับปรุงแก้ไขหมดแล้ว และเตรียมเสนอต่อคณะกมธ.ชุดใหญ่ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน และน่าจะเสร็จสิ้นก่อนการร่างรัฐธรรมนูญ

นายอมร กล่าวอีกว่า คณะอนุกมธ.เห็นควรให้มีการยกเลิกการรับสมัครคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) และให้ประกาศรับสมัครใหม่ เพราะมีความไม่โปร่งใส และไม่เป็นธรรมในการรับสมัคร  โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีการประกาศการรับสมัครเพียง 2 เว็บไซต์เท่านั้น คือคือเว็บไซต์ของ คปก. และเว็บไซต์ของศูนย์ข่าวอิศรา โดยจะพบว่ามีสมาชิก สปช. สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีต คปก. ไปสมัครเท่านั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่รวมทั้งนักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถไม่ได้รับทราบการเปิดรับสมัครในครั้งนี้

ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ สปช. สนช. และกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่สมัครไปแล้วลาออก   แม้รัฐธรรมนูญชั่วคราว 57 ไม่ได้ห้ามไว้ แต่ด้วยสามัญสำนึกจะต้องคิดได้ และ​ยังมีคนนอกจ้องตรวจสอบ สปช.อยู่ ซึ่งสมาชิกหลายคนก็ไม่สบายใจ เกรงว่าจะเหมือนเช่นกรณีตั้งผู้ช่วยและที่ปรึกษา  รวมไปถึงพบว่ามีความพยายามจากคนในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีข่าวว่าจะถูกปรับ ยุบ ควบรวม มาวิ่งเต้นกับทาง สปช.เพื่อขอไม่ให้ถูกปรับเปลี่ยน ทั้งที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าองค์กรไหนจะถูกยกเลิกบ้าง

“นอกจากนี้ยังพบว่ามีสมาชิก สปช.ไปสมัครเรียนหลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สำหรับนักบริหารระดับสูง (ป.ป.ร.) ที่จัดโดยสถาบันพระปกเกล้า พบว่ามี สปช.สมัครในหลักสูตรดังกล่าว 20 กว่าคน ซึ่งทางอนุ กมธ.มีความเป็นห่วงว่าจะมีปัญหากระทบกับการทำงานใน สปช. และคณะกมธ.ซึ่งตรงกับเวลาเรียนของ  ป.ป.ร. ที่กำหนดไว้ในวันอังคาร และวันพุธ และผมได้ข่าวว่าองค์เดิมที่เคยตรวจสอบพวกเรา กำลังจับจ้องว่าจะมีการลาไปเรียน แต่กลับมีการลงมติในการประชุม จึงอยากให้รัดกุม รวมถึงการเบิกเบี้ยประชุมที่มีจำนวนเงิน 6,000 – 9,000 บาท แต่กลับไปเรียนหนังสือ ภาพที่ออกมาอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์ซึ่งถือว่าไม่เป็นสิ่งที่ดี” นายอมร กล่าว