ประชานิยมสมยอม

เย็นไว้โยม ต้องบอกว่าเย็นไว้ รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เหมือนกำลังเข้าฟอร์ม สวมวิญญาณซานตาคลอสเดินหน้าแจกสะบัด

เริ่มจากแจกเงินเดือนข้าราชการ ประกาศล่วงหน้าข้ามปีจะขึ้นให้ 5% แต่แปะโป้งต้องรอปีหน้า

ใช้งบประมาณไม่มากเท่าใด แค่ 3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

ถัดมาแจกโบนัสข้าราชการอีกเฉลี่ยคนละ 4,000-5,000 บาท

งวดนี้ใช้งบประมาณไม่มาก 1,000 ล้านบาท

ยัง-ยังไม่พอ รัฐบาลตั้งท่าแจกไม่เลิกด้วยการขยายมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตั้งแต่ ค่ารถไฟ ค่ารถเมล์ ฯลฯ ฟรี

แต่ที่เป็นกอบเป็นกำคือการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ก๊าซเอ็นจีวี รวมถึงค่าไฟออกไปจากเดิมที่จะหมดอายุอุ้มในเดือน ส.ค.ปีนี้ ก็จะยืดเวลาไปถึงโน่น... ก.พ.ปีหน้า

เงินที่ต้องควักอุดหนุนไม่มากไม่มาย ราวๆ 2 หมื่นล้านบาท

และถ้าสังเกตให้ดี ทุกโครงการที่แจก รัฐบาลเตะลูกยาวไปถึงปีหน้า เหมือนเตรียมพร้อมการเลือกตั้งอย่างไรก็ไม่รู้

แน่นอน-มันไม่ผิดหรอกถ้ารัฐบาลจะแจกเงินให้กับประชาชนไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

แต่อย่าลืมเงินที่แจกล้วนเป็นภาษี ไม่ก็เป็นเงินของส่วนรวม

การเอาไปแจกจ่ายจึงต้องคิดให้ดีถึงความเป็นธรรม

ตัวอย่างที่ชัดเจน การตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ผู้ที่ได้ประโยชน์ไม่ใช่ชาวบ้านในครัวเรือน เนื่องจากแต่ละบ้านเฉลี่ยใช้ก๊าซอย่างเก่งเดือนละถัง เสียเงินแค่ประมาณ 300 บาท

หรือแม้กระทั่งร้านขายอาหาร ต้นทุนก๊าซก็ไม่ใช่ต้นทุนหลัก

แต่การตรึงราคาก๊าซ รับประทานกันไปเนื้อๆ กลายเป็นรถยนต์ติดก๊าซหุงต้ม ต่างหาก

คิดง่ายๆ รถยนต์วิ่งไม่มากนัก แต่ละเดือนจ่ายค่าก๊าซ 1,000-2,000 บาท หรือถ้าเป็นรถแท็กซี่ รถขนส่งจะยิ่งจ่ายเพิ่ม เป็นผู้ใช้รายใหญ่มากกว่าก๊าซในครัวเรือน

การตรึงราคาก๊าซจึงไม่เป็นธรรม บิดเบือนกลไกตลาด เอาเงินของคนที่ไม่ได้ใช้ก๊าซมาอุดหนุนให้คนที่ใช้ก๊าซ

ที่สำคัญ การตรึงราคาก๊าซสร้างผลเสียชัดเจน คนแห่เอารถไปติดก๊าซมากมายจนผลิตภายในไม่เพียงพอ ถึงขั้นต้องนำเข้าก๊าซราคาแพงจากต่างประเทศ และรัฐบาลต้องอุดหนุนขายในราคาต่ำ

แต่รัฐบาลไม่สนใจ ยังคงเดินหน้าบิดเบือนราคาต่อไป กลายเป็นประชานิยมสมยอม ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ไม่มีสิ้นสุด

พี่น้องเอ๋ย เลือกตั้งคราวหน้าอย่าลืมความสมานฉันท์ปรองดองของพวกกระผม

แจกขนาดนี้ ไม่คิดถึงกันบ้าง ใจดำหรือเปล่า???