posttoday

"ยงยุทธ" พ้อ เสียใจ ถูกกล่าวหาเลือกข้าง

24 มีนาคม 2558

รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม พ้อ เสียใจ ถูกกล่าวหาเลือกข้าง แค่พูดความจริง เหตุ เผยผลสอบ สตง. พบใช้เงินผิดประเภท

รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม พ้อ เสียใจ ถูกกล่าวหาเลือกข้าง แค่พูดความจริง เหตุ เผยผลสอบ สตง. พบใช้เงินผิดประเภท

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีได้รับมอบหมายให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับข้อโต้แย้งในกระทรวงสาธารณสุข ระหว่าง นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข และ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ว่า นพ.ณรงค์ ซึ่งเป็นปลัดกระทรวงรับนโยบายจากรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติ เมื่อสะดุดตรงนี้ก็ต้องสอบสวนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนผลการสอบสวนอยู่ที่คณะกรรมการว่าพบข้อเท็จจริงมากน้อยแค่ไหนเราไม่สามารถไปกำหนดได้ ว่าจะให้มีผลสรุปจะออกมาภายในวันใด ส่วนบรรยากาศภายในกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้ดีขึ้นมีความเข้าใจกันมากขึ้น

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่ารัฐบาลไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวเพียงเรื่องเดียว มีการดำเนินการในเรื่องอื่นๆพร้อมกันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช่จ่ายงบประมาณของ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) รวมถึงการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องที่มีการกล่าวหา 8-10 เรื่อง ซึ่งข้อมูลของ สปสช. ระบุว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น จึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง การตรวจสอบกรณีที่มีการระบุว่าโรงพยาบาลมีผลประกอบการขาดทุน นอกจากนี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ยังมีการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช่จ่ายเงินในด้านต่างๆด้วย ซึ่งทางกระทรวงยินดีให้มีการตรวจสอบ และในหลายเรื่องทางกระทรวงก็เป็นผู้ตั้งกรรมการสอบเอง

เมื่อถามว่าปกติมีการตรวจสอบงบประมาณของ สปสช. หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็มีการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ และพบเรื่องที่ผิดปกติอยู่บ้าง แต่เมื่อตนพูดถึงเรื่องที่ สตง.ตรวจพบการใช้เงินผิดประเภท ก็มีคนออกมาคัดค้านว่าตนเข้าข้างนั้นเข้าข้างนี้ ก็ทำให้เสียใจ ตนแค่พูดความจริง และจากนี้ สตง.ก็ต้องตรวจสอบเรื่องต่างๆต่อไป และไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไรก็จะมีผลสะท้อนไปยังผู้ปฏิบัติ ถ้ามีการดำเนินการที่ผิดพลาด หรือไม่ชอบมาพากลผู้ปฏิบัติต้องรับผิดชอบ และปัญหาในกระทรวงสาธารณสุขที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีงบประมาณมาก จำนวนกว่าแสนล้านบาท แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เมื่อมีข้อโต้แย้งขึ้นมาก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งส่วนตัวคิดว่าระบบบริหารงานถึงอย่างไรก็สามารถปรับปรุงต่อไปได้ แต่หลักการที่ผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการแยกจากกันยังเป็นหลักการที่ถูกอยู่