posttoday

พท.อัด"หมอวรงค์"ไร้วุฒิภาวะกดดันสนช.

10 มกราคม 2558

พร้อมพงศ์ ซัด "หมอวรงค์" ไร้วุฒิภาวะกดดันสนช. ชี้ เหตุผลโต้แย้งยิ่งลักษณ์ล้างข้อหาหมดจด ด้าน อนุสรณ์ ครวญมาตรฐานบิดบี้ยวถูกจ้องจับผิด ขณะที่ สมคิดซัด ป.ป.ช.-กกต.แกว่งปากสร้างขัดแย้ง

พร้อมพงศ์  ซัด "หมอวรงค์" ไร้วุฒิภาวะกดดันสนช. ชี้ เหตุผลโต้แย้งยิ่งลักษณ์ล้างข้อหาหมดจด ด้าน อนุสรณ์ ครวญมาตรฐานบิดบี้ยวถูกจ้องจับผิด ขณะที่ สมคิดซัด ป.ป.ช.-กกต.แกว่งปากสร้างขัดแย้ง

วันที่ 10 ม.ค. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ รักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์กดดันสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่าหากไม่กล้าตัดสินใจถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ สืบเนื่องจากโครงการรับจำนำข้าว จะทำให้ประเทศจมปลักการคอร์รัปชัน ผู้มีอำนาจจะไม่เคารพกฎหมายนั้น ถือเป็นเรื่องผิดมารยาท ขาดวุฒิภาวะ เอาความคิดของตนเองไปตัดสินก่อนทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่ ขณะนี้เพิ่งจบขั้นตอนของการแถลงเปิดคดี ยังต้องพิจารณากันอีกมาก สนช.มีวิจารณญาณตัดสินใจเองได้ไม่ต้องให้ใครมาบอก ถ้านพ.วรงค์สนใจเรื่องการทุจริตทำไมไม่ไปดูโครงการโรงพักทดแทน การทุจริตครุภัณฑ์อาชีวะ หรือว่าเป็นของพวกเดียวกันแล้วทำเป็นตาบอดสี ไม่ต้องตรวจสอบ คอยแต่จ้องจับผิด ปรักปรำฝ่ายตรงข้ามเพื่อหวังผลทางการเมือง

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เหตุผลโต้แย้งข้อกล่าวหาของป.ป.ช.ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ชี้แจงนั้น นพ.วรงค์ได้ฟังบ้างหรือไม่ โดยเฉพาะรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ที่มีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ เป็นประธานฯ ที่บอกว่าข้าวหายเกือบ 3 ล้านตัน ข้อเท็จจริงหายไปประมาณแค่ 2 แสนตัน การคิดมูลค่าสินค้าก็ไม่ถูกต้อง การหักค่าเสื่อมก็ไม่ถูกต้องเช่นกัน นอกจากนี้ยังไม่ได้หักมูลค่าสินค้าที่ขายให้กับหน่วยงานของรัฐ เหล่านี้ทำให้ตัวเลขผลการขาดทุนผันแปรที่คิดออกมาไม่ถูกต้อง ทั้งนี้เป็นเพราะคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เร่งรีบทำสำนวนเกินไป จึงไม่ได้รับการพิสูจน์ให้ถูกต้องเสียก่อน โดยเหตุผลข้อโต้แย้งของน.ส.ยิ่งลักษณ์สามารถหักล้างข้อกล่าวหาได้อย่างชัดเจน

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากใครได้ติดตามการแถลงคัดค้านข้อกล่าวหาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์กับสนช.อย่างใกล้ชิด จะเข้าใจแนวคิดโครงการจำนำข้าว รวมถึงประโยชน์ที่ประเทศได้รับจากการช่วยเหลือชาวนา ทำให้เกิดตัวคูณทางเศรษฐกิจ มีการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ไม่ทำให้เศรษฐกิจฝืดเคืองเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้งหนี้สาธารณะของประเทศก็ไม่ได้สูงจนทำให้ประเทศล่มจมอย่างที่ถูกโจมตี ประเทศอื่นๆช่วยเหลือเกษตรกรของเขาในอัตราที่มากกว่าด้วยซ้ำ โดยนายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ ก็มีแนวคิดที่จะใช้เงินถึง 2 แสนล้านในการช่วยเหลือเกษตรกรให้ประทังชีวิตอยู่ได้ ซึ่งมากกว่าการขาดทุนจากโครงการจำนำข้าวในแต่ละปีด้วยซ้ำ คำถามคือถ้าทำตรรกะเดียวกันแสดงว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องมีความผิดด้วยหรือไม่ เหมือนกับโครงการ 2 ล้านล้านที่รัฐบาลเพื่อไทยทำรถไฟความเร็วสูงไม่ได้ แต่รัฐบาลชุดนี้ 3 ล้านล้านทำรถไฟความเร็วปานกลางได้ จึงอยากให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินในเรื่องดังกล่าว และอยากให้ช่วยกันพิจารณาด้วยว่าป.ป.ช.ที่มีหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตในทุกเรื่อง เหตุใดจึงจงใจเล่นงานเฉพาะรัฐบาลเพื่อไทยเท่านั้น เพราะคดีข้าวในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มีความผิดปกติหลายประการ และน่าสงสัยว่าอาจมีการทุจริตในหลายกระบวนการ ทั้งการการขายข้าวต่ำกว่าราคาตลาดและไม่มีการประมูล ไม่ขายให้ผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงสุด แต่ป.ป.ช. กลับตัดสินว่าไม่ผิด มาตรฐานความยุติธรรมในสังคมนี้ยังมีอยู่หรือไม่

นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากน.ส.ยิ่งลักษณ์ชี้แจงโต้แย้งข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อย ก็ยังถูกกระแนะกระแหนเล็กๆน้อยๆจากนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป.ป.ช. เวลานี้มีองค์กรอิสระ 2 แห่งเป็นอย่างน้อย คือป.ป.ช. และกกต. โดยเฉพาะนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารจัดการเลือกตั้ง ได้นำเสนอข่าวเชิงสร้างความสับสน ใช้ข้อมูลด้านเดียว ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง และแสดงความคิดเห็นในลักษณะสร้างความขัดแย้ง กรณีเปรียบเปรยว่ายื่นดาบให้โจร จนต้องออกมาขอโทษ ทั้ง 2 องค์กรนี้ละเมิดคำสั่งคสช. ฉบับที่ 33/2557 หรือไม่ เพราะระบุให้องค์กรอิสระงดแสดงความเห็น เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ถามว่าคสช.จะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวอยากฝากให้คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญมองปัญหาขององค์กรอิสระ โดยเฉพาะกกต. และป.ป.ช. หากยังอยู่จะจำกัดบทบาทหน้าที่อย่างไร