รัฐยกระดับ "ศรชล." คุม6หน่วยงานทางทะเล

รัฐบาลยกระดับ "ศรชล." ของกองทัพเรือให้มีอำนาจคุม 6 หน่วยงานทางทะเล ดูแลความมั่นคงป้องกันภัยคุกคามทางทะเล

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์  ผู้บัญชาการทหารเรือ เปิดเผยว่า  เมื่อเร็วๆนี้รัฐบาล ได้อนุมัติตามที่ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ยกระดับ  “ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” (ศรชล.) ของกองทัพเรือ ให้ เป็น  “ศูนย์อำนวยการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” ขึ้นตรงต่อ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการตามแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ. 2558 – 2564 รวมถึงสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงทางทะเล

"ศรชล. ใหม่นี้  มีบทบาทเป็นองค์กรในการอำนวยการ กำกับการ และประสานการปฏิบัติ ในการักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลกับหน่วยราชการอื่น ๆ ของรัฐ และองค์กรหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเลระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง  ทั้ง6 หน่วยงานคือ  กองทัพเรือ กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า กรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งจะส่งผลให้การแก้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้นในทะเลมีเอกภาพและบูรณาการกันมากขึ้น สั่งการได้อย่างรวดเร็ว ทั้งการช่วยเหลือผู้ประสบภัย   การคุ้มครองเรือประมง และทุกอย่างที่เกิดขึ้นในทะเล"ผบ.ทร. กล่าว

ด้าน พล.ร.อ.ธนะรัตน์  อุบล  เสนาธิการทหารเรือ ในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล    (ผอ.ศรชล.) กล่าวว่า  ได้จัดทำแผนปฏิบัติงานของ ศรชล.ให้มีความสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งการรองรับแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ.2558 – 2564

นอกจากนี้มีการเตรียมการรองรับการปรับโครงสร้างของ ศรชล. การเตรียมแผนบูรณาการให้ระบบตรวจการณ์ตรวจติดตาม ควบคุมเรือ และพิสูจน์ทราบ แสดงผลการปฏิบัติได้ที่หน่วยปฏิบัติการหลักของ ศรชล.ทุกหน่วยงาน และ  การส่งเสริมความร่วมมือในการสร้างเครือข่ายระหว่าง ศรชล.กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและการค้าที่เกี่ยวเนื่องกับทะเล  ภายใต้แนวคิด

ผอ.ศรชล.กล่าวว่า สภาความมั่นคงแห่งชาติ และกองทัพเรือในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักของ  ศรชล.  จะจัดให้มีการประชุม ครั้งแรก เพื่อชี้แจงแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล (พ.ศ.2558 – 2564) ในวันที่  26 ธ.ค.นี้ที่ หอประชุมกองทัพเรือ โดยมี พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้มอบนโยบาย ให้การทำงานของศรชล.

การเข้าร่วมประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558  มีส่วนเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางทะเลโดยตรง   โดยเฉพาะการจัดตั้งประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ด้านความมั่นคงทางทะเลที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความพร้อมรองรับภาระงานด้านความมั่นคงครอบคลุมในทุกมิติ  จากภัยคุกคามในทุกรูปแบบ  อาชญากรรมข้ามชาติ และความท้าทายข้ามแดน  ที่มีความเชื่อมโยงกับการกระทำผิดกฎหมายระหว่างทะเลกับแผ่นดิน  จำเป็นต้องใช้การบูรณาการและการสนธิขีดความสามารถของทุกภาคส่วน 

บรรยายภาพ : พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ