อุทธรณ์ยกฟ้อง "จอน อึ๊งภากรณ์" พาพวกบุกสภา
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับยกฟ้อง "จอน อึ๊งภากรณ์" พาพวกปีนรั้วบุกสภาค้านออกกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับยกฟ้อง "จอน อึ๊งภากรณ์" พาพวกปีนรั้วบุกสภาค้านออกกฎหมาย
คดีนี้อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายจอน อึ๊งภากรณ์ ประธานมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม กับพวกรวม 10 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และร่วมกันทำให้ปรากฏด้วยวาจา อันมิใช่กระทำในความหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่แสดงความคิดเห็นโดยปกติเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย
จากกรณี นายจอน กับพวกหลายร้อยคน ได้บุกอาคารรัฐสภาใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจนบาดเจ็บ แล้วยังได้ร่วมกันพูดและส่งเสียงกดดันจนสมาชิกรัฐสภาต้องเลิกการประชุม สนช. ในการพิจารณากฎหมายต่างๆ เมื่อวันที่12 ธันวาคม 2550
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุก นายจอน 1 ปี 4 เดือน และคนอื่นๆ ตัดสินให้จำคุกตั้งแต่ 8 เดือน ถึง 1 ปี 4 เดือน ปรับคนละ 6,000 บาท แต่ทั้งหมดไม่ เคยกระทำความผิดโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
ศาลอุทธรณ์ ตรวจสำนวนประชุมแล้วเห็นว่าที่จำเลยอุทธรณ์ ว่าไม่ผิดฐานมั่วสุม เป็นเพียงการคัดค้านการพิจารณากฎหมายในสภา เป็นการชุมนุมที่สงบ สันติ ไร้อาวุธ และไม่มีได้เป็นผู้สั่งการมวลชน ศาลเห็นว่าพยานหลักฐานข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยทั้ง 10 ขาดเจตนา มิได้ทำให้รัฐสภาเสียหาย
และเมื่อมีการเลื่อนพิจารณากฎหมายออกไป จำเลยก็ได้ออกจากบริเวณรัฐสภาโดยสงบเรียบร้อย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น
ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ว่าไม่ผิดฐานบุกรุกเห็นว่า ที่จำเลยปีนเข้าไปภายในรัฐสภา เนื่องจากประตูถูกปิด ซึ่งจำเลยก็ได้แสดงให้เห็นว่าต้องการคัดค้านไม่เห็นด้วยที่สภาเร่งรีบพิจารณากฎหมาย ซึ่งเป็นสิทธิของพื้นฐานของประชาธิปไตย อีกทั้งไม่ได้ทำให้รัฐสภา หรือสำนักงานเกิดความเสียหาย หรือทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฎิบัติงานได้ และเมื่อจำเลยเข้าไปภายในรัฐสภา การประชุมก็ยังมีต่อ และเจ้าหน้าที่ก็มิได้ขับไล่ให้กลุ่มจำเลยออกไป
ต่อมาก็มีเจ้าหน้าที่ออกมารับข้อเรียกร้อง พร้อมเลื่อนการประชุมออกไป ภายหลังกลุ่มจำเลยก็ออกมาจากรัฐสภาโดยเรียบร้อยจึงไม่มีเจตนา ในการบุกรุก เป็นการชุมนุมโดยสงบ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วยอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น พิพากษากลับให้ยกฟ้อง