ฝ่ายมั่นคงเร่งสอบเบื้องหลัง"นศ."เคลื่อนไหว

"ปณิธาน" เผย "ประวิตร" สั่งภูมิภาคดูแลความเรียบร้อย รับนายกฯลงพื้นที่  ยันรัฐไม่ปิดกั้นแสดงออก รับมีคนใช้ "ฮังเกอร์เกมส์" เคลื่อนไหว โยนโรงหนังตัดสินใจ

เวลา 11.30น. วันที่ 22 พ.ย. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงวานนี้ (21 พ.ย.) ว่า พล.อ.ประวิตร กำชับให้ทุกหน่วยงานทำงานมากขึ้น โดยเข้าไปดูแลความเรียบร้อย และความสงบของประชาชนในช่วงที่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น ไม่ให้เกิดปัญหา ให้ส่วนภูมิภาค รายงานสถานการณ์ในพื้นที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. จะเดินทางลงพื้นที่มากขึ้นพร้อมให้ปรับการทำงานของรองนายกฯที่รับผิดชอบงานแต่ละฝ่ายในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เน้นการลงพื้นที่ พร้อมรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรีทุกๆ 3 เดือน

ส่วนการแสดงออกได้มีการแบ่งเป็นสองส่วน คือ ในแง่การแสดงออกที่มีการเผชิญหน้า หน่วยงานด้านความมั่นคงจะเข้าไปดูแล ควบคุมสถานการณ์ ขณะที่เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น สภาปฏิรูปแห่งชาติ หรือสปช. เป็นฝ่ายดูแล ยืนยันรัฐบาลไม่ปิดกั้นการแสดงออกของผู้ที่เห็นต่าง เพราะเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องหาแนวทางเข้าไปพูดคุยเพื่อนให้เกิดความเข้าใจ การแสดงออกที่อยู่ภายใต้ กรอบของกฎหมายสามารถทำได้ ยกเว้นการแสดงออกในเรื่องของอดีต ซึ่งไม่เป็นประโยชน์ ฝ่ายความมั่นคงจะเข้าไปดูแลว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่นักศึกษาเคลื่อนไหวในสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายความมั่นคงกำลังพิจารณาว่า มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่

นายปณิธาน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีการโพสต์คลิปชูสามนิ้วที่อ.เชียงดาว และมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานความมั่นคงตามไปบ้านพักเชิญตัวมาทำความเข้าใจนั้น ได้กำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ต้องละเอียดอ่อน รอบคอบเหมาะสม ซึ่งมีศูนย์ตรวจสอบ และรายงานการทำงานของเจ้าหน้าที่เข้ามาทุกสัปดาห์ หากพบสิ่งที่เป็นปัญหาสามารถแจ้งมายังหน่วยงานเราได้ และจะนำไปประเมิน และปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม อยากให้บรรยากาศผ่อนคลาย และดีขึ้น ไม่ต้องการให้ย้อนกลับไปเผชิญหน้าหรือขัดแย้งอีก ส่วนจะมีขอให้ยกเลิกการฉายหนังเดอะฮังเกอร์เกมส์หรือไม่นั้น เข้าใจว่า ผู้ประกอบการคงประเมินดูความเหมาะสมและเชื่อว่าคงไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ขณะเดียวกันต้องยอมรับบางคนอาจใช้เรื่องเหล่านี้เป็นประเด็นเคลื่อนไหว ฝ่ายความมั่นคงต้องไปดู และพูดคุยเพื่อทำความเข้าใจ