posttoday

นายกฯปาฐกถาเร่งพัฒนาคน-การศึกษา

26 กันยายน 2557

พล.อ.ประยุทธ์ ปาฐกถา ย้ำทุกหน่วยงานวางรากฐานประเทศ-เร่งพัฒนาคน การศึกษา ฯ ยันเลือก สปช. 250 คน ไม่มีล็อคสเป็ค

พล.อ.ประยุทธ์ ปาฐกถา  ย้ำทุกหน่วยงานวางรากฐานประเทศ-เร่งพัฒนาคน การศึกษา ฯ ยันเลือก สปช. 250 คน ไม่มีล็อคสเป็ค

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานเปิดการประชุมประจำปี 2557 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พร้อมทั้งแสดงปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "การพัฒนาคนเพื่ออนาคตประเทศไทย" ที่เมืองทองธานี 

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า   การประชุมครั้งนี้ต้องนำไปสู่การปฏิบัติที่แท้จริง มีแผนงานที่ชัดเจนและมีขอบเขต เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และนำผลการพัฒนาบรรจุไว้ในทุกกระทรวง ทบวง กรมด้วย ขณะที่การพัฒนาประเทศต้องมีอย่างต่อเนื่อง และต้องพัฒนาคน จากศูนย์กลางกระจายออกไปสู่พื้นที่ และคำนึงถึงคนระดับล่างก่อน ที่สำคัญการพัฒนาต้องอยู่บนพื้นฐานทรัพยากรประเทศ พร้อมย้ำว่าแต่ละแผนงานของรัฐต้องชัดเจนโดยเฉพาะ 1 ปี ของรัฐบาลชุดนี้ จะมีแผนงานสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 พร้อมชี้ให้ส่วนราชการกำหนด มีวิสัยทัศน์งาน เช่น กำหนดระยะ 5 ปี และในระยะอันใกล้ 3 เดือน 6 เดือนเป็นต้น เพื่อมีแผนงานดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผล กำหนดแนวทางให้สอดคล้องกับการใช้จ่ายงบประมาณ และคำนึงถึงวินัยการเงินการคลังด้วย และการเข้ามาทำงานในครั้งนี้ไม่ต้องการสร้างความขัดแย้ง แต่ต้องการมาวางรากฐานงานในด้านต่างๆให้ถูกต้องและหยั่งยืน

"ผมก็อดทนแต่เราก็คนธรรมดา บางอย่างสัมฤทธิ์ผลบ้าง บางอย่างก็กำลังทำและอยู่ในแผน อย่าไปหลง เหลิงการพัฒนาที่ไร้ขอบเขต ไร้ปลายทาง ต้องคิดว่าอีก 3 เดือนข้างหน้า และอีก 1 ปีของรัฐบาล จะต้องทำอะไรบ้าง และที่เหลืออีก 2 ปีของแผนพัฒนาฉบับที่ 11 เราจะทำอะไรบ้าง"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับให้ทุกหน่วยงานให้ช่วยกันในการวางอนาคตให้กับคนในประเทศ ให้มีวิสัยทัศน์ ยกระดับการศึกษาและวางพื้นฐานการศึกษาให้กับคนทุกระดับ เพราะเชื่อว่า คนเราพัฒนาได้ หากดีขึ้นจะมีส่วนช่วยในการลดความขัดแย้ง หรือลดการถูกชักจูงได้มากขึ้น และถึงว่าการประเมินด้านการศึกษายังคงน่าเป็นห่วง แต่กลับมองว่าเป็นเรื่องท้าทายที่จะพัฒนาให้การศึกษาดีขึ้น ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชนด้วย

สำหรับการปรับปรุงด้านเทคโนโลยีของชาติแม้ตอนนี้จะล้าหลังไปมาก แต่การปรับโครงสร้างไม่ว่าจะเป็น บมจ.กสท โทรคมนาคม หรือ บมจ. ทีโอที ก็อยู่ระหว่างการดำเนินการ

"ไม่เคยคิดมีอำนาจ แต่ต้องการช่วยเหลือประชาชน คิดเพียงว่าเป็นประชาชนคนหนึ่งเท่านั้น พร้อมขอคนไทยอย่างสร้างความขัดแย้งเพื่อทำให้ในหลวงมีความสุข และสถาบันอยู่เหนือความขัดแย้ง และจะยังคงจัดรายการคืนความสุขให้คนในชาติ เพื่อสื่อสารให้ประชาชนที่มีพื้นฐานความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป ได้เข้าใจ และหันมาร่วมมือกันทำ"นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมย้ำทุกอย่างกำลังดำเนินการตามโรดแมพ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และในเย็นวันนี้ คสช.จะสรุปคัดสรรสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ ไม่เกิน 250 คน อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานสัมมนาครั้งนี้เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนระดมความคิดเห็นในการพัฒนาคน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ฉบับที่ 11 และเชื่อมโยงกับกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 โดยมีคณะรัฐมนตรี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ภาคประชาสังคม เครือข่ายองค์กรชุมชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมงานกว่า 2,500 คน.

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ประชุมคสช.เพื่อคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในวันนี้ โดยยืนยันว่าไม่มีการล็อคสเป็คเพื่อที่จะอยู่ในอำนาจต่อ เพราะรัฐบาลได้ตั้งวาระไว้แค่ 1 ปี ส่วนที่เหลือก็ให้สภาปฏิรูปวางระบบให้ส่งต่อรัฐบาลชุดต่อไปมาสานงานให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งเมื่อได้ข้อยุติแล้วจะนำเสนอรายชื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมตามที่กฎหมายกำหนดไว้โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 2 ต.ค.นี้

"คนที่จะคัดเข้ามา 173 คน ก็มาจาก 550 คนที่เขาเลือกมาจาก 7,000 กว่าคน โดยคณะกรรมการ 70 กว่าคน และผมได้ให้เขาจัดลำดับเรียงอาวุโส ความรู้ความสามารถมาแล้ว จะมาเลือกโดยพูดคุยกันในคสช.ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งผมมีอำนาจเพียงแต่ตรวจทานความถูกต้อง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว