posttoday

"ประยุทธ์"ปัดซุกเงิน 2 หมื่นล้าน

12 กันยายน 2557

"นายกฯ"แจงข่าวลือสั่งแบงก์ปกปิดบัญชีเงินฝาก 2 หมื่นล้าน ท้าพวกหลบต่างแดนกลับประเทศพิสูจน์ความบริสุทธิ์ วอนอย่ากดดันปราบโกง

"นายกฯ"แจงข่าวลือสั่งแบงก์ปกปิดบัญชีเงินฝาก 2 หมื่นล้าน ท้าพวกหลบต่างแดนกลับประเทศพิสูจน์ความบริสุทธิ์ วอนอย่ากดดันปราบโกง

พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช. ) กล่าวในรายการคืนความสุขคนในชาติ  ว่า  กรณีมีการบิดเบือนในโซเชียลเน็ตเวิร์ค มีปลอมเอกสารหัว – ท้าย มีลายเซ็นของพล.อ.ประยุทธ์  ข้อความภายในท่านก็คิดแล้วกันว่าจริงหรือไม่จริง

“วันนี้ธนาคารก็มาชี้แจงแล้วว่าผมไม่เคยมีบัญชีเงินฝากเหล่านั้น มีการบอกผมให้สั่งการให้ปกปิดเงินผมน้องชายผม สองหมื่นกว่าล้าน ผมคงไม่มีใครบ้าไปเป็นอย่างนั้น ทำอย่างนั้นคงไม่ใช่ ถ้าเรามีเงินขนาดนั้นจริง ก็ดีผมจะได้นำเงินมาใช้หนี้ให้พ่อแม่พี่น้อง หรือสร้างอะไรให้เป็นประโยชน์ เป็นประวัติศาสตร์ให้กับแผ่นดินนี้บ้าง ให้สมกับที่เราเกิดมาบนแผ่นดินนี้ ใครรวยก็ต้องทำแบบนั้น เผอิญผมยังไม่รวยขนาดนั้น ธนาคารเองก็ทราบดี  ตอนนี้ก็ทราบว่าธนาคารก็ออกมาชี้แจงแล้ว ช่วยกันดูด้วยว่าเรื่องต่าง ๆ พูดจริงบ้าง เท็จบ้างอะไรต่าง ๆ ผมคิดว่าผมเกรงว่าบางคนก็จะเชื่อ ถ้าผมไม่พูดเลยก็เป็นอย่างนี้ไปตลอด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  เราเป็นทหารเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงกองทัพ ต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นตัวอย่าง ให้ทำอย่างไรให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพนับถือ ไม่เช่นนั้นปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถืออาวุธเป็นจำนวนมากไม่ได้จนถึงวันนี้ เพราะฉะนั้นเคยบอกแล้วว่า จะต้องเอาชนะความชั่วด้วยความดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครอง ย่อมเป็นบุคคลอันเป็นที่รักของทุก ๆ คนในกองทัพพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  เรื่องการเขียนข้อความเท็จ โจมตี คสช. โจมตีตนเองหรือเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ก็ตาม  วันก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมมาได้ ก็สอบถามว่าทำไมถึงโพสต์ข้อความอย่างนั้น ให้ร้ายคน สร้างความรุนแรง และหยาบคายบ้างอะไรบ้าง เขาตอบว่า สนุกดี ทำแล้วสนุก ก็สงสัยว่าทำไมประเทศเราถึงมีคนเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมาก มีมากพอสมควร เขียนแล้วก็โพสต์ข้อความอะไรออกมาแล้วรู้สึกว่าเป็นพระเอก เป็นฮีโร่

“ผมเข้าใจว่าอาจจะป่วยทางจิตคนเหล่านี้ เขียนให้คนทะเลาะเบาะแว้งกัน เขียนโดยไม่มีข้อเท็จจริง เขียนโดยที่จับต้นชนปลายมาแล้วนำมาต่อกัน ทำนองนี้บ้านเมืองก็ไม่น่าจะดี เพราะฉะนั้นก็อย่าไปช่วยกันโพสต์ต่อไปเลย ท่านอ่านดูท่านก็น่าจะรู้นะ ว่าข้อความเหล่านี้เป็นไปได้หรือ เชื่อได้หรือเปล่า ถ้าสงสัยอะไรก็สอบถามมาได้ที่ คสช. หรือที่รัฐบาล แม้กระทั่งที่ผมเอง ก็ส่งข้อความอะไรถามมาก็ได้ พอจับได้ พอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาดำเนินการทางกฎหมายก็อ้างว่าถูกทำร้าย อย่างบ้างคนก็ไปเคลื่อนไหวที่ต่างประเทศ ไปร้องเรียนที่นั่นที่นี่ ถ้าหากท่านคิดว่าท่านถูก ท่านไม่ได้ผิดอะไร ท่านกลับมาสิครับ แล้วท่านจะให้ผมส่งไปให้เจ้าหน้าที่อะไรที่ท่านไว้วางใจไปดูแลท่าน แล้วก็ต่อสู้กันในศาล ด้วยกระบวนการยุติธรรมตัดสิน น่าจะดีกว่าถ้าท่านไม่ไว้วางใจเรา ไม่ไว้ใจทหาร ผมให้โอกาสทุกท่านเลย อย่าไปพูดกันในทางลับ ในต่างประเทศ หรือประชุมสร้างความวุ่นวายต่าง ๆ เหล่านี้ ผมเห็นว่ายังมีการเคลื่อนไหวอะไรพวกนี้อยู่ เพราะฉะนั้นท่านต้องเข้าใจ เห็นใจพวกเราด้วยในการที่จะปฏิรูปประเทศ เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรให้ประเทศชาติเสียหาย อย่านำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ไม่ดี ไม่จริง ไปเล่าให้ชาวต่างประเทศเขาฟัง น่าอับอายเขา วันนี้เราไม่ได้ทำอะไรอย่างนั้นเลย อยากให้คนไทยทั้งประเทศอย่าไปร่วมมือ และก็ร่วมกันต่อต้านเขาด้วย อันที่จริงแล้วก็อยากจะให้ไม่สนใจดีกว่า อย่าไปสนใจคนเหล่านี้เลย ถ้าเราสนใจถ้าเราโพสต์กันต่อ ก็เป็นเรื่องเป็นราว สื่อก็จำเป็นต้องมาแพร่กันอีก พอแพร่กันไปแพร่กันมาก็ทะเลาะกันไปอีก เพราะฉะนั้นแทนที่ประเทศชาติจะสงบ ประชาชนจะมีความสุข เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้าได้ ก็จะกลับไปอย่างเดิมอีก และเราจะได้นำพาการปฏิรูป ไปสู่การเลือกตั้งให้ได้โดยเร็ว ถ้าเรายังเป็นอย่างนี้กันอยู่ ไม่ร่วมมือกัน แล้วเราจะก้าวไปสู่จุดนั้นกันได้อย่างไร” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการนำนโยบายรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปร่วมงานขององค์กรเอกชนในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่น ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ หลายคนบอกว่าจะเป็นได้หรือไม่ ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลก็เป็นอย่างนี้อย่างนั้น ถ้าเราช่วยกันต้องได้ น่าชื่นใจในการตื่นตัวของประชาชน ที่ผ่านมาการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ทุกคน ทราบดีว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เกิดความ แตกแยกของคนในชาติ ทำให้ขาดความเชื่อมั่นของต่างประเทศ รัฐบาลจึง ถือเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว  ทั้งเร่งด่วนระยะสั้น ระยะกลาง ยั่งยืน แต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า  การสอบตรวจต้องมีการใช้กฎหมายที่ถูกต้อง ให้ความเป็นธรรม เสมอภาค อย่าใช้อารมณ์ หรือความเกลียดชังมาเป็นตัวตัดสินไว้ก่อน ถ้าท่านใช้อารมณ์ ใช้ความเกลียดชังมาตัดสินไว้ก่อน กฎหมายเดินตามไม่ได้ เดินตามมาต้องเข้าทางนี้ ใครผิดใครถูกก็เข้าอีกข้างหนึ่ง ลำบากนะครับให้กฎหมายเขาว่าดีกว่า อะไรที่ไม่ใช่เรื่องเราก็นำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เสร็จแล้วก็จบก็คอยดูว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ก็ตรวจสอบเขาได้ เพราะฉะนั้นเราต้องทำเรื่องกฎหมายให้ทั่วถึง ทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ต้องเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมให้ได้ ทุกระบบ เรื่องใดเกิดแล้ว ก็สอบสวนให้รอบคอบ เรื่องใดยังไม่เกิด ก็ต้องป้องปราม ป้องกันไว้ก่อน อย่าไปตัดสินกันเอง  ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องมีกฎหมาย กลับไปสู่อดีตหลายร้อยปีมาแล้ว ใช้อาวุธ ตั้งกลุ่ม ตั้งแก๊งกัน ต่อสู้ฆ่าฟันกันมา

“เพราะฉะนั้นสถานการณ์เหล่านี้อย่าให้เกิดขึ้นอีกในประเทศไทยของเรา ต่างชาติมีตัวอย่างให้เห็นอยู่แล้วทุก ท่านกรุณาไปดูข่าวต่างชาติ ท่านจะเห็นว่าบ้านเมืองหลาย ๆ ประเทศที่เคยเจริญสวยงาม ก้าวหน้า ต้องพังทลายเพราะการต่อสู้ของคนในชาติ เราอย่าไปทำเลย เราไม่มีอะไรที่มันถึงขนาดนั้น ฉะนั้นจำคำผมไว้ให้ดี อย่าตำหนิ ติเตียนกันมากนักเลย การกดดันมาก ๆ นั้น ทำให้คนทำงานไม่เป็นอิสระ ภายใต้ความกดดันของตัวเอง ผมเองก็ยังกดดันตัวเองเลย เพราะจะทำให้การตัดสินใจผิดพลาด เราต้องพยายามตั้งสติ อดทน อดกลั้น ถ้าต่างฝ่ายต่างช่วยกันไม่ดีกว่าหรือ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว