posttoday

สุวัจน์ แนะนายกฯดูแลญาติผู้เสียชีวิตเหตุสลายม็อบแดงด้วย

29 พฤษภาคม 2553

“สุวัจน์” จี้   “อภิสิทธิ์” ฟื้นฟูจิตใจญาติผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อแดง ควบคู่กับการช่วยเหลือภาคธุรกิจด้วย         นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ว่า หากเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเข้าสู่ความเรียบร้อยปกติแล้วรัฐบาลก็ควรที่จะคืนสภาวะปกติกลับสู่บ้านเมือง เพราะยิ่งคืนเร็วก็จะเรียกความเชื่อมั่นต่างๆกลับมาได้เร็วเช่นกัน ดังนั้นหากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ความสงบแล้ว สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำคือ การฟื้นฟูสังคมและการเยียวยาประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เห็นด้วยปรับครม.          ส่วนกรณีรัฐบาลถูกมองว่าไปช่วยเหลือฟื้นฟูเฉพาะภาคธุรกิจห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่กลับเมินเฉยที่จะช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมนั้น รัฐบาลควรที่จะดูแลเรื่องสังคม เรื่องจิตใจ เรื่องความทุกข์ของประชาชน และรีบทำเรื่องเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย     &nbs

“สุวัจน์” จี้   “อภิสิทธิ์” ฟื้นฟูจิตใจญาติผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อแดง ควบคู่กับการช่วยเหลือภาคธุรกิจด้วย
        
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.นครราชสีมา ว่า หากเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเข้าสู่ความเรียบร้อยปกติแล้วรัฐบาลก็ควรที่จะคืนสภาวะปกติกลับสู่บ้านเมือง เพราะยิ่งคืนเร็วก็จะเรียกความเชื่อมั่นต่างๆกลับมาได้เร็วเช่นกัน ดังนั้นหากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ความสงบแล้ว สิ่งที่รัฐบาลจะต้องเร่งทำคือ การฟื้นฟูสังคมและการเยียวยาประชาชนและการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศสิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เห็นด้วยปรับครม.
         
ส่วนกรณีรัฐบาลถูกมองว่าไปช่วยเหลือฟื้นฟูเฉพาะภาคธุรกิจห้างสรรพสินค้าและผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบ แต่กลับเมินเฉยที่จะช่วยเหลือฟื้นฟูจิตใจกับญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมนั้น รัฐบาลควรที่จะดูแลเรื่องสังคม เรื่องจิตใจ เรื่องความทุกข์ของประชาชน และรีบทำเรื่องเศรษฐกิจควบคู่กันไปด้วย
         
ส่วนการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมายและการให้ความเป็นธรรมก็จะมีผู้ที่รับผิดชอบต่างๆคอยดูแลเพื่อให้มีความถูกต้องอยู่แล้ว แต่เรื่องความแตกแยกต่างๆนั้น เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนที่จะเร่งดำเนินการการปรองดองให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทุกอย่างภายในประเทศทำให้เป็นการดึงประเทศชาติให้ต่ำลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดนั้นคือจะทำอย่างไรที่จะทำให้ประชาชนทั้งประเทศกลับมาร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว การฟื้นฟูจิตใจ การสร้างความปรองดอง การดึงทุกฝ่ายเข้ามาหารือกันถึงแนวทางที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขได้อีกครั้ง เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในขณะนี้
         
นายสุวัจน์ กล่าวด้วยว่า การที่นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดที่จะปรับคณะรัฐมนตรีการปรับเปลี่ยนเพื่อที่ต้องการเกิดความกระฉับกระเฉง ง่ายต่อการทำงาน ก็ควรที่จะมีการพิจารณา โดยปกติแล้วรัฐบาลที่มีอายุมากกว่า 1 ปี จะมีการปรับคณะรัฐมนตรีให้เกิดความเหมาะสม ฉะนั้นก็ควรจะมีการหารือกันเป็นการภายในระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลกับนายกรัฐมนตรีที่จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้
        
 "ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้น เหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆที่จะมีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา อยากเห็นทุกฝ่ายได้นำข้อมูลข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ที่จะสร้างความปรองดองต่อไป หันหน้าเข้าหากันเพื่อมาช่วยกันสร้างสรรค์บ้านเมืองของเราให้ดีกว่าเดิม ในส่วนของพรรครวมชาติพัฒนาจะมีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีภายในพรรคหรือไม่นั้น คิดว่าเป็นความคิดของแต่ละพรรค เพราะทุกคนก็ได้มีการดำเนินการมาเป็นระยะปีกว่าแล้วและก็เห็นเหตุการณ์ของบ้านเมือง ว่าจากนี้ควรจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป จริงๆแล้วเป็นเรื่องของความเหมาะสม ไม่ใช่ว่า คนนี้ดี คนนี้ไม่ดี แต่ว่าเป็นองค์ประกอบของสถานการณ์บ้านเมือง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องภายในของแต่ละพรรค จึงไม่ทราบว่าแต่ละพรรคคิดอย่างไร"นายสุวัจน์ กล่าว